4 เรือนเวลาสุดพิเศษสำหรับคนรักพระจันทร์

Ad1

ในช่วงเวลายามค่ำคืนไม่มีความงดงามใดจะเหนือไปกว่าช่วงเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นกลางท้องฟ้าอย่างเต็มดวงและเปล่งประกายอย่างเจิดจ้าท่ามกลางหมู่ดาวนับล้านๆ ดวง ซึ่งความงามนี้ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของบนท้องฟ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวพันกับเรื่องราวและการดำเนินชีวิตของคนในยุคโบราณอีกด้วย

เทศกาลไหว้พระจันทร์ถือเป็นเทศกาลตามวัฒนธรรมจีนที่มีขึ้นในกลางฤดูใบไม้ร่วง เพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยว จะมีขึ้นในคืนวันเพ็ญเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ และในเทศกาลไหว้พระจันทร์นี้ ชาวจีนจะเฉลิมฉลองด้วยการไหว้ดวงจันทร์ในเวลากลางคืน โดยพระจันทร์ในช่วงวันนั้นจะขึ้นอย่างเต็มดวงและทอแสงท่ามกลางความมืดมิดได้อย่างโดดเด่น

แน่นอนว่าเรื่อวราวของพระจันทร์ไม่ได้เกี่ยวพันแค่การใช้ชีวิตของคนเอเชียในแถบตะวันออกเท่านั้น แต่สำหรับในโลกแห่งเรือนเวลา พระจันทร์ยังถือเป็นส่วนหนึ่งในฟังก์ชั่นของนาฬิกาจักรกลอีกด้วย และการแสดงข้างขึ้นข้างแรม หรือ Moonphase บนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือ ถือเป็นอีกฟังก์ชั่นที่นอกเหนือจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถของผู้ผลิตนาฬิกาในแง่ของการพัฒนากลไกให้มีความซับซ้อนแล้ว ยังเป็นเรื่องของงานฝีมือและความสามารถในเชิงช่างได้อีกด้วย เพราะทุกรายละเอียดที่อยู่บนเพลทในการแสดงการโคจรรอบโลกของดวงจันทร์นั้น บรรดาช่างฝีมือทั้งหลายต่างทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการสร้างสรรค์ลวดลายและเลือกใช้วัสดุที่มีค่าในการผลิตชิ้นงานออกมาเพื่อให้ผู้สวมใส่ได้ชื่นชมทุกครั้งที่ยกข้อมือขึ้นมา

สำหรับวันไหว้พระจันทร์ 2565 ปีนี้ตรงกับวันที่ 10 กันยายน 2565 แน่นอนว่าหลายคนอาจจะอยากหานาฬิกาที่มี Moonphase มาประดับข้อมือสักเรือนหรือเป็นของขวัญให้กับคนที่คุณรักหรือเคารพ ไม่ว่าจะเป็นสุภาพสตรีหรือสุภาพบุรุษและถ้ายังนึกไม่ออก เราขอนำเสนอ 4 นาฬิการะดับหรูที่มีฟังก์ชั่นนี้มาให้คุณได้พิจารณา

Omega Speedmaster Moonwatch 30433445203001 Gallery 5 Large 1024x576

1.Omega Co-Axial Master Chronometer Moonphase Chronograph :

พระจันทร์กับ Omega คือสิ่งแรกที่ทุกคนจะนึกถึงเมื่อจับ 2 เรื่องนี้มาเชื่อมโยงกัน เพราะ Omega คือ นาฬิกาแบรนด์แรกที่ได้เดินทางไปสำรวจดวงจันทร์กับนักบินอวกาศของโครงการ Apollo รวมแล้ว 6 โครงการด้วยกันจนทำให้นาฬิกา Speedmaster ของพวกเขามีชื่อเล่นว่า Moonwatch และสิ่งเหล่านี้ได้ส่งต่อเรื่องราวและตำนานแห่งการเดินทางมายังนาฬิการุ่นใหม่ๆ ของแบรนด์

Omega Co-Axial Master Chronometer Moonphase Chronograph ถือเป็นส่วนหนึ่งของนาฬิกาเจนเนอเรชั่นใหม่ของ Speedmaster ที่สืบทอดเรื่องราวการเดินทางของ Moonwatch และได้รับการเพิ่มเติมความสามารถในการทำงานที่เหนือระดับ นอกเหนือจากการบอกเวลาและการจับเวลาตามแบบฉบับนาฬิกา Chronograph ซึ่งบนตัวเรือนขนาด 44.25 มิลลิเมตรของนาฬิกาเรือนนี้ได้รับการถ่ายทอดรูปทรงอันสุดคลาสสิคของ Moonwatch เอาไว้อย่างครบถ้วน แต่มีการปรับปรุงและเพิ่มเติมรายละเอียดใหม่ๆ เข้าไปเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย ซึ่งเราจะได้เห็นเทคนิคของการใช้โลหะเหลวอย่าง Liquid Metal ที่ไหลลงไปยังร่องของตัวเลขที่อยู่บนสเกล Tachymeter แบบเซรามิก ซึ่งให้ความแวววาวและคงทนกว่าอินเสิร์ตแบบอะลูมิเนียม

พื้นหน้าปัดสีน้ำเงินเข้มเปรียบเสมือนกับท้องฟ้าในยามค่ำคืนและถูกขัดในแบบ Sunblasted ทำให้สามารถเช่นกับแสงตามมุมของการส่องกระทบได้อย่างสวยงาม ส่วนด้านล่างในตำแหน่ง 6 นาฬิกาจะมีการเซาะร่องเพื่อเป็นหน้าปัดย่อยในการแสดงฟังก์ชั่นข้างขึ้นข้างแรม ซึ่งเพลทของฟังก์ชั่นนี้จะประกอบไปด้วยผลึกของโลหะที่ผสมอยู่ข้างในเพื่อทำให้ภาพของพระจันทร์ที่โผล่พ้นขอบฟ้าออกมามีความสวยงามและชัดเจนจากพื้นผิวโดยรอบ

ที่ขาดไม่ได้คือการขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 9904 ที่มีความเที่ยงตรงในระดับ Master Chronometer ที่ได้รับการรับรองจากทั้ง COSC และ METAS จึ่งมั่นใจได้ในการทำงานที่จะมีความคลาดเคลื่อนต่ำที่สุด พร้อมความทนทานต่อสนามแม่เหล็กในระดับ 15,000 Gauss

Omega Speedmaster Moonwatch 30433445203001 Gallery 3 Large 1024x576

2.Franck Muller Vanguard Lady Moonphase : บนตัวเรือนทรง Tonneau อันสุดคลาสสิคของ Vanguard ทุกรายละเอียดถูกสร้างสรรค์ขึ้นอย่างใส่ใจและสุดประณีต บนขอบตัวเรือนคุณจะได้พบกับเพชรที่ส่องประกายซึ่งเปรียบเสมือนกับดวงดาวนับล้านๆ ดวงบนท้องฟ้า เชื่อมต่อกับหน้าปัดที่เปรียบเสมือนกับผืนฟ้า โดยที่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกาจะมีหน้าปัดย่อยของฟังก์ชั่น Moonphase จัดวางเอาไว้อย่างลงตัว

เมื่ออยู่ในช่วงข้างแรม ดวงดาวที่อยู่บนขอบตัวเรือนรอบๆ นาฬิกาคือความสวยงามที่คุณสามารถชื่นชมได้ แต่เมื่อถึงวันขึ้น 15 ค่ำเมื่อไร พระจันทร์เต็มดวงที่ส่องประกายอย่างเจิดจ้าจะปรากฏขึ้นมาเพื่อช่วยเพิ่มความสว่างไสวให้กับท้องฟ้า

ทั้งหมดคืออารมณ์และสัมผัสที่คุณจะได้รับผ่านประสบการณ์ของนาฬิกาข้อมือรุ่นนี้ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ พร้อมกับหน้าปัดแบบ Mother of Pearl ที่มทีความสวยงามและเพิ่มลุ๊คแบบสปอร์ตด้วยสายหนังจระเข้สีขาวที่เข้ากับตัวเรือนที่ผลิตจากตัวเรือนทองคำ Rose Gold 18k และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 32 มิลลิเมตร เหมาะกับทุกขนาดข้อมือของคุณสุภาพสตรี

Bc V32 Sc At Fo L Mop Dcd1r 5n

3.Chopard L.U.C LUNAR ONE : เรื่องราวบนท้องฟ้ามักจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดทั้งความหลงใหลและจินตนาการให้กับคนที่อยู่บนพื้นดินอย่างพวกเราเสมอมา โลกและพระจันทร์คือสิ่งที่มีความสัมพันธ์และก่อให้เกิดปรากฏการณ์ให้แก่กันและกัน ซึ่งทุกครั้งที่พระจันทร์โคจรรอบโลก เราจะรับรู้ได้ถึงเรื่องของการกำหนดเดือน ปีอธิกสุรทิน และการขึ้นลงของน้ำบนโลก สิ่งที่เกิดขี้นทั้งหมดถูกจำลองลงบนเรือนเวลาสุดพิเศษของ Chopard ซึ่งมีชื่อว่า L.U.C LUNAR ONE

ตัวนาฬิกาขนาด 43 มิลลิเมตรได้รับการผลิตจากวัสดุล้ำค่าอย่างทองคำ Rose Gold 18K แต่เหนืออื่นใดคือ ความสามารถของช่างทำนาฬิกาของ Chopard Fine Watchmaking Workshops ที่สามารถสร้างสรรค์กลไกที่มีกำลังสำรอง 65 ชั่วโมงชุดนี้ให้มีความพิเศษ และมีความซับซ้อนในการทำงาน เช่นเดียวกับการขัดแต่งและความใส่ใจต่อทุกรายละเอียดของชิ้นส่วนของกลไกเพื่อสะท้อนถึงความประณีต

สิ่งที่เป็นความโดดเด่นและไม่เหมือนใครคือ การเป็นกลไกแบบปฏิทินถาวร หรือ Perpetual Calendar ที่มาพร้อมกับการแสดงวันและเดือนสำหรับปีอธิกสุรทิน ซึ่งเราทราบกันดีว่าเป็นวันที่เดือนกุมภาพันธ์จะมี 29 วันและเกิดขึ้นทุกๆ 4 ปีซึ่งจะแสดงผ่านทางหน้าปัดย่อยในตำแหน่ง 3 นาฬิกา ขณะที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกาจะเป็นการหน้าปัดย่อยที่แสดง Day หรือวันประจำสัปดาห์ การระบุเวลาในช่วง 24 ชั่วโมง โดยที่ด้านบนจะเป็นช่องหน้าต่างแบบ Big Date ในการแสดงวันที่ และที่ขาดไม่ได้คือ หน้าต่างในการแสดงข้างขึ้นข้างแรมของพระจันทร์ที่จะอยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา ซึ่ง Chopard ทำให้มีความพิเศษ ด้วยการระบายพื้นภายในของหน้าปัดให้เป็นท้องฟ้ายามค่ำคืนและมีดาวประดับอยู่รอบๆ ก่อนที่จะเซาะช่องเล็กๆ เอาไว้ข้างในเพื่อให้พระจันทร์ได้ปรากฏออกมาตามช่วงเวลา

Glashuette Original 1 90 02 42 32 05 Detail 5 1240x820 1 1024x677

4. Glashutte Original PanoMaticLunar : บางครั้งเราอาจจะรู้สึกว่านาฬิกาที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่น Moonphase มักจะมีความซับซ้อนและหน้าปัดดูค่อนข้างยุ่งเหยิงนิดๆ และจะดีกว่าไหมที่จะทำให้ความซับซ้อนเหล่านี้ถูกถ่ายทอดออกมาบนความเรียบง่ายของหน้าปัดนาฬิกา แต่เพียบพร้อมด้วยการใช้งาน ซึ่งทีมออกแบบของ Glashutte Original จัดการทำให้นาฬิการุ่น PanoMaticLunar ออกมากับคอนเซ็ปต์ที่เรียบหรู ดูดีแต่เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นในการใช้งาน

บนตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตรที่มีการขัดแต่งทุกรายละเอียดตามจุดต่างๆ อย่างประณีตนั้น สิ่งที่อยู่ข้างในคือ หน้าปัดแบบชุบเงิน Galvanized Silver พร้อมกับการขัดแบบด้านเพื่อให้พื้นผิวที่ไม่หลอกตาตรวส่วนที่เป็นพื้นผิวหลัก ส่วนพื้นผิวของหน้าปัดย่อยจะเป็นแบบด้านในสไตล์ Opaline ดูแตกต่างจากพื้นผิวหลักแต่ยังให้สัมผัสที่ดูกลมกลืมไม่แปลกแยกออกมา

การจัดวางหน้าปัดแต่ละชุดทำได้อย่างยอดเยี่ยม ฝั่งซ้ายจะเป็นหน้าปัดบอกเวลาของเข็มชั่วโมงและนาที โดยที่ด้านล่างจะมีเข็มวินาทีแยก หรือ Small Second ด้วยรูปแบบของการวางชุดเข็มเยื้องศูนย์ หรือ Off-Center จากกึ่งกลางหน้าปัด ขณะที่ด้านขวาจะมีการแยกฟังก์ชั่นออกเป็น 2 ส่วน คือ หน้าปัดสำหรับฟังก์ชั่น Moonphase ที่มีสเกลในการบอกช่วงเวลาของวันต่างๆ ที่มีจำนวน 29.53 วันตามการโคจรรอบโลกของพระจันทร์ และด้านล่างจะเป็นหน้าต่างบอกวันที่แบบ Big Date