BR-X5 ความเหนือระดับแห่งเครื่องบอกเวลา

Br X5 M17 1600px

นับจากการเปิดตัวคอลเล็กชั่น BR-05 เมื่อปี 2019 ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงที่มีความสำคัญสำหรับแบรนด์ Bell & Ross เลยก็ว่าได้ เพราะจากเดิมที่แบรนด์นี้มีภาพลักษณ์ของการเป็นนาฬิกาที่มีแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากมาตรวัดหรืออุปกรณ์ซึ่งติดตั้งอยู่ในค็อกพิทของเครื่องบินที่เป็นหัวใจหลักในการสร้างสรรค์มาตั้งแต่ปี 1992 พวกเขาได้เปลี่ยนและนำเสนอแนวคิดใหม่ของการออกแบบที่ทำให้นาฬิกาของตัวเองไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จริงอยู่ที่แม้ว่าจะยังคงกลิ่นอายของจุดดั้งเดิมในการออกแบบ แต่ทุกรายละเอียดที่อยู่บน BR-05 คือการเปิดประตูบานใหม่ออกสู่อีกโลกที่ Bell & Ross ยังไม่ได้ย่างกรายเข้าไป เป็นโลกของคนเมืองหรือคนที่ต้องการนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์และสามารถสวมใส่ได้ทุกวัน จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำไม BR-05 ถึงได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากหลังจากที่เปิดตัวออกมา

แน่นอนว่าในปี 2022 จะยังเป็นอีกปีที่สำคัญของ Bell & Ross เพราะจากจุดเริ่มต้นเมื่อ 3 ปีที่แล้วของ BR-05 พวกเขาได้ต่อยอดแนวคิดของการพัฒนานาฬิกาของตัวเองเพื่อยกระดับให้เหนือชั้นขึ้นด้วยรุ่น BR-X5 ซึ่งเป็นนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของแบรนด์ในแง่การออกแบบ แต่เหนือชั้นขึ้นด้วยกลไกที่มีความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer และกำลังสำรองที่นานถึง 72 ชั่วโมงหรือ 3 วัน เช่นเดียวกับโครงสร้างตัวเรือนที่มีความซับซ้อนและทำให้นาฬิกาเรือนนี้แตกต่างและพลิกแนวคิดจากคอลเล็กชั่นอื่นๆ ของ Bell& Ross

M22 35 Br X5 Black Steel Jump 4036b.jpeg 1600px 1024x470

ถือกำเนิดเพื่อความแตกต่าง

ถ้าเปรียบเทียบ Bell&Ross คือ SUV หรือรถยนต์อเนกประสงค์แบบขับเคลื่อน 4 ล้อสักคัน สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเกือบ 20 ปีที่ผ่านมาของแบรนด์คือ การผลิต SUV ที่เน้นการใช้งานตามแบบฉบับและคอนเซ็ปต์ของรถยนต์ประเภทนี้ บึกบึน พร้อมลุยในสไตล์ออฟโรด แต่บางครั้งเมื่อต้องใช้งานในชีวิตประจำวันอาจจะไม่เหมาะสมเท่าไร แต่กับการเปิดตัว BR-05 ในปี 2019 พวกเขายังคงคอนเซ็ปต์ในการออกแบบเอาไว้ นั่นคือ การเป็น SUV ตัวสปอร์ตแต่มีการปรับบุคลิก และฟังก์ชั่นการใช้งาน เช่นเดียวกับรูปแบบของตัวรถให้สอดคล้องกับรสนิยมที่เปลี่ยนไปมากขึ้น นั่นคือ เน้นการขับขี่บนออนโรด หรือในเมือง แต่เมื่อจะลุยทางวิบากก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน

นั่นคือ สิ่งที่ Bell & Ross พยายามที่จะจัดระเบียบและแยกผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้ชัดเจน โดยในกลุ่ม Instrumental อย่าง BR-03 คือ นาฬิกาที่ถูกสร้างจากรากเหง้าเดิมและเหมาะกับคนที่ชอบนาฬิกาที่มีความชัดเจนในแง่ของการออกแบบและการสวมใส่ที่เน้นความโดดเด่นรวมถึงการนำไปใช้งานอย่างจริงจัง ส่วนอีกกลุ่มคือ BR-05 นาฬิกาที่มีกลิ่นอายในการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์แต่ถูกปรับแนวคิดให้เหมาะกับการใช้งานในแบบ Daily Use และเป็นนาฬิกาในรูปแบบ Urban Watch สำหรับคนเมือง ซึ่งทางแบรนด์ต้องการให้เข้าถึงความต้องการของคนกลุ่มนี้มากขึ้น

ดังนั้น การถือกำเนิดของ BR-X5 ที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดก็คือ การเพิ่มทางเลือกที่แตกต่างและอัพเกรดจาก BR-05 ในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะในเรื่องโครงสร้างตัวเรือนและสเป็กของกลไก เพื่อยกระดับให้นาฬิการุ่นนี้มีความพิเศษมากขึ้น โดยจะมีจำหน่ายทั้งรุ่นปกติซึ่งในตอนนี้มีการเปิดตัวออกมา 2 สีหน้าปัด และรุ่นพิเศษที่มีการผลิตจำนวนจำกัด

Eclate Br X5 Carbon Orange.jpeg 1600px 1024x797

เหนือระดับด้วยโครงสร้างตัวเรือนใหม่

BR-X5 มีจำหน่ายในช่วงแรก 2 แบบ คือ รุ่นปกติที่มีหน้าปัดสีดำ และสี Ice Blue ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจะมีจำหน่ายตั้งแบบสายสแตนเลสสตีลแบบ Integrated และสายยางที่ให้ความนุ่มสบายในการสวมใส่ ส่วนอีกรุ่นจะเป็นเวอร์ชันพิเศษ วึ่งมีการผลิตจำนวน 500 เรือนและมากับสายยางสีส้ม

ในรุ่นปกติ มาพร้อมตัวเรือนขนาด 41 มิลลิเมตร โดยสิ่งที่น่าสนใจคือการผลิตตัวเรือนแบบใหม่ที่เรียกว่า Sandwich Type Construction ซึ่งเป็นการประกบกันของชิ้นส่วนหลากหลายชั้น (Multi-Layer Construction) โดยจะมีชิ้นส่วนหลักตรงกลางเป็นตัวเรือนที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล และจะมีโอริงที่ผลิตจากยาง พร้อมกับแผ่นเหล็กอยู่ตรงกลางระหว่างขอบตัวเรือนและตัวเรือนหลัก และทั้งหมดจะถูกยึดด้วยน็อตที่อยู่ตรงขอบตัวเรือนทั้ง 4 ด้านอันเป็นเอกลักษณ์ของ Bell & Ross

ขณะที่รุ่นพิเศษ หรือ Bell & Ross BR-X5 Carbon Orange เลือกใช้วัสดุที่เป็นส่วนประกอบของโครงสร้างตัวเรือนอย่างคาร์บอนไฟเบอร์และไทเทเนียม เกรด 2 มารวมอยู่บนโครงสร้างตัวเรือนแบบ Multi-layer Construction ของพวกเขา โดยในส่วนของไทเทเนียมจะมีการรมดำแบบ DLC เพื่อให้มีความกลมกลืนกับลวดลายของคาร์บอน และเมื่อแยกแต่ละส่วนของโครงสร้างแล้ว จะมีแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ 2 ชิ้นที่วางตัวประกบกับไทเทเนียมแบบชิ้นเดียวพร้อมคราวน์การ์ดและเคลือบด้วย DLC ส่วนด้านบนจะเป็นขอบตัวเรือนแบบยึดตายตัวที่ผลิตจากไทเทเนียม เกรด 2 พร้อมการเคลือบ DLC เหมือนกัน พร้อมกับเสริมสีสันด้วยวัสดุสีส้มตามจุดต่างๆ เช่นเดียวกับสายยางที่เป็นสีส้มตัดกับสีดำของตัวเรือนอย่างสวยงาม

ทั้งหมดนี้จะช่วยทำให้การแยกการขัดในแต่ละชิ้นส่วนทำได้ง่ายขึ้นซึ่งตัวนาฬิกาจะมีทั้งแบบขัดเงาและขัดด้านสลับกันอย่างสวยงาม อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของความทนทานต่อการกันน้ำ และความสะดวกต่อการออกแบบและเติมลูกเล่นที่เป็นรายละเอียดบนชิ้นส่วนของตัวเรือนนาฬิกา

Br X5 M17 126803.jpeg 1600px 1024x1024

ขับเคลื่อนด้วยความเที่ยงตรง

สิ่งหนึ่งที่ผ่านมาคือ เราไม่ค่อยได้เห็นรุ่นธรรมดาของ Bell&Ross ที่มาพร้อมกับกลไกที่มีความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer ตามมาตรฐานการทดสอบของหน่วยงานในสวิตเซอร์แลนด์อย่าง C.O.S.C. วางจำหน่ายเท่าไร แต่สำหรับ BR-X5 ไม่ว่าจะเป็นรุ่นธรรมดาหรือตัว Limited Edition นาฬิการุ่นนี้จะขับเคลื่อนด้วยกลไกที่มีความเที่ยงตรงในการทำงาน พร้อมระดับกำลังสำรองที่มากขึ้นเกือบเท่าตัวจากกลไกรุ่นปกติ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาในเรื่องการปรับตั้งเวลาใหม่ในกรณีที่ถอดนาฬิกาวางเอาไว้ในช่วงคืนวันศุกร์ และนำใช้ใหม่ในเช้าวันจันทร์

ทั้งรุ่นธรรมดาและรุ่นพิเศษจะขับเคลื่อนด้วยกลไกรหัส BR-Cal.323 ที่พัฒนาโดย Kenissi โดยใช้พื้นฐานของกลไกอัตโนมัติเดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมงหรือ 4Hz และมีความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer ส่วนการสำรองกำลังงานอยู่ที่ 3 วัน หรือ 72 ชั่วโมง และเพื่อความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งเพื่อความสวยงามและการนั่งชื่นชมรายละเอียดของการขัดแต่งที่เกิดขึ้นบนชิ้นส่วนกลไก คุณสามารถมองการปรับแต่งลวดลายของโรเตอร์ขึ้นลานได้ผ่านทางกระจกใสที่อยู่บนฝาหลัง

นอกจากนั้น ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับ Power Reserve Indicator หรือมาตรวัดแสดงระดับกำลังสำรองจัดวางอยู่ในตำแหน่ง 9 นาฬิกาขณะที่ฝั่งตรงข้าม ในตำแหน่ง 3 นาฬิกาจะเป็นช่องแสดงวันที่ หรือ Date ที่เรียงเป็นแนวยาวทางตั้งสำหรับแสดงวันที่ในแบบ Yesterday-Today-Tomorrow

M22 33 Br X5 Black Caout 3885 2.jpeg 1600px 1024x1024

และนี่คือเรือนเวลาอีกรุ่นจาก Bell & Ross ที่จะทำให้คุณรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในแง่ของสัมผัสจากการสวมใส่นาฬิกาเรือนนี้บนข้อมือ โดยที่ทุกรายละเอียดยังคงสะท้อนและคงกลิ่นอายของความเป็น Instrument Watch ตามแบบฉบับของแบรนด์เอาไว้อย่างครบถ้วน

รายละเอียดทางเทคนิค : Bell & Ross BR-X5

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 41 มิลลิเมตร

ความหนา : 12.8 มิลลิเมตร

วัสดุตัวเรือน : สแตนเลสสตีล

กระจก : Sapphire แบบเคลือบสารกันการสะท้อนแสง

กลไก :  BR-Cal.323 อัตโนมัติ มีความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer

ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง

สำรองกำลังงาน : 72 ชั่วโมง / 3 วัน

การกันน้ำ : 100 เมตร