เรื่องราวในอดีตที่ยิ่งใหญ่และกลายเป็นมรดกที่สืบทอดและส่งต่อกันมาได้กลับมาเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอีกครั้ง พร้อมกับการนำมาตีความและสร้างสรรค์ขึ้นใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย ที่สำคัญคือ การผสมผสานระหว่างนวัตกรรมที่ทันสมัยของโลกแห่งนาฬิกายุคใหม่ให้เข้ากับงานฝีมือชั้นเลิศในการสร้างสรรค์เรือนเวลา โดยที่ยังคงกลิ่นอายแห่งความยิ่งใหญ่ในอดีตเอาไว้อย่างครบถ้วน และนี่คือเรื่องราวของนาฬิกา 5557-Marine Hora Mundi รุ่นใหม่ของ Breguet ซึ่งเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่อยู่ในคอลเล็กชั่น Marine
จุดเริ่มต้นจากกองทัพเรือฝรั่งเศส
นอกเหนือจากการเป็นนักวิทยาศาสตร์และช่างเทคนิคในโลกแห่งเรือนเวลาที่มีผลงานอันโดดเด่นแล้ว Abraham-Louis Breguet ยังได้รับการจดจำในฐานะของผู้ให้กำเนิดแบรนด์นาฬิกาชื่อดัง และการเข้าไปมีส่วนในการทำงานร่วมกับกองทัพเรือฝรั่งเศสในปี 1814 เมื่อเขาทำงานอยู่ในส่วนของ Bureau des Longitudes ที่ดูแลในเรื่องการแก้ปัญหาเกี่ยวกับการเดินทาง การกำหนดทิศทางและตำแหน่งในเชิงพิกัดของเรือ แต่เหนืออื่นใด ตำแหน่งอันทรงเกียรติที่สุดคือ การที่เขาได้รับแต่งตั้งจากทางพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 ในการมอบตำแหน่งอันทรงเกียรตินั่นคือ Watchmaker to the Royal Navy หรือผู้ผลิตนาฬิกาอย่างเป็นทางการของกองทัพเรือฝรั่งเศส
นับจากนั้นเป็นต้นมา นาฬิกาของ Breguet จึงมีความเชื่อมโยงเข้ากับเรื่องของท้องทะเล และคอลเล็กชั่น Marine เปรียบเสมือนกับตัวแทนของความสำเร็จและความยิ่งใหญ่ในอดีตที่ถูกส่งผ่านมานานกว่า 200 ปีสู่การเป็นนาฬิกาข้อมือที่มีความโดดเด่น สวยงาม แต่ยังเพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติและฟังก์ชั่นใช้งาน
ความโดดเด่นเพื่อนักเดินทาง
สำหรับ Breguet Marine Hora Mundi แม้ว่าที่ผ่านมา จะมีการนำชื่อนี้มาใช้และผ่านการสร้างสรรค์และตีความใหม่ในเชิงการออกแบบเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัยอยู่หลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะโดดเด่นเท่ากับครั้งนี้ โดย Breguet เลือกนำเสนอโฉมใหม่ของ Hora Mundi ผ่านทางคอลเล็กชั่นหลักอย่าง Marine เพื่อสะท้อนถึงความเชื่อมโยงกับจุดกำเนิดของแบรนด์
ตัวนาฬิกามาพร้อมกับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 43.9 มิลลิเมตรโดยมีวัสดุให้เลือกทั้งแบบทองคำขาวใน หรือ Rose Gold พร้อมกับสายยาง สายโลหะแบบเดียวกับตัวเรือน และสายหนังรายละเอียดบนหน้าปัดถูกตีความด้วยการหยิบนำรูปโลกมาไว้บนข้อมือผ่านวัสดุและแผ่นหน้าปัดลวดลายที่วางซ้อนทับกัน
ตัวนาฬิกาขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 77F1 ที่เดินด้วยความถี่ 4 เฮิร์ต กลไกอัตโนมัติติดตั้งด้วยระบบปล่อยจักรจากวัสดุซิลิคอน – วัสดุมากด้วยคุณสมบัติที่ทั้งต้านทานต่อการกัดกร่อนและการสึกหรอ อีกทั้งยังไม่ได้รับผลกระทบจากสนามแม่เหล็ก Calibre 77F1 มีความพิเศษด้วยโมดูลเสริมที่ได้รับการจดสิทธิบัตรสำหรับระบบการบอก 2 เขตเวลา, การแสดงเวลาที่สอง, กลไกของจักรที่สามารถบันทึกและปรับการตั้งค่าและหน้าปัดที่ระบุกลางวัน/กลางคืนส่วนหนึ่งของกลไกระดับสูงนี้คือสามารถสำรองพลังงานที่ยาวนานกว่า 55 ชั่วโมงที่สามารถรับชมได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์บนฝาหลังซึ่งตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยการขัดแต่งด้วยลาย Côtes de Genève, กิโยเชต์และลายก้นหอย
พัฒนาเพื่อความสมบูรณ์แบบในการใช้งาน
กว่าจะมาถึงสิ่งที่เห็นอยู่ในตอนนี้ ทางทีมงานของ Breguet ได้ใช้เวลาในการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์แบบ โดยนาฬิการุ่นใหม่มาพร้อมความสะดวกในการใช้งาน เพียงแค่การกดปุ่มบนตัวเรือนนาฬิกา คุณจะสามารถปรับเปลี่ยนเวลา ที่อยู่บนหน้าปัดให้สอดคล้องกับการเดินทางของคุณ ซึ่งเบื้องหลังความยอดเยี่ยมในการทำงานนี้ เป็นผลมาจากการพัฒนาระบบนานถึง 3 ปี และในตัวกลไกยังมีการใช้ชิ้นส่วนและระบบที่ได้รับการจดสิทธิบัตรซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของ Breguet ถึง 4 รายการด้วยกัน
สิ่งที่อยู่ในกลไกคือฟังก์ชั่นที่สามารถเลือกเวลาและวันที่ของเมืองแรกได้ เช่นเดียวกับการเลือกข้อมูลในแบบเดียวกันสำหรับเมืองที่ 2 โดยตัวกลไกที่อยู่ข้างในจะทำการคำนวนเวลาและวันให้สอดคล้องกันตามหลักระยะที่ห่างกันของเขตเวลา ซึ่งทั้งหมดเป็นผลมาจากความยอดเยี่ยมของระบบลูกเบี้ยว ชุดค้อนและเฟืองที่ถูกรวมเป็นชุดเดียวกัน ซึ่งได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาด และควบคุมสั่งงานผ่านทางปุ่มกดและเม็ดมะยมที่อยู่บนตัวนาฬิกา
โดยเมื่อผู้ใช้งานต้องการเปลี่ยนเวลาหลังจากที่มาถึง เพียงแค่กดเพื่อเลือกเมืองที่ต้องการ ตัวกลไกก็จะคำนวนและจัดการปรับเวลาให้สอดคล้องกันตามระยะเวลาที่ห่างกันของเขตโซนเวลา
ความงดงามและการแสดงข้อมูลของหน้าปัด
หน้าปัดของนาฬิกาถือว่าเป็นอีกส่วนที่มีความสำคัญไม่แพ้กลไก เพราะนอกจากจะต้องนำเสนอความสวยงามด้วยเทคนิคการขัดแต่งแบบต่างๆ เช่นเดียวกับการใช้วัสดุที่มีค่าในการผลิตแล้ว หน้าปัดยังจะต้องแสดงข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญของตัวนาฬิกาด้วยเช่นกัน
แผ่นหน้าปัดถูกออกแบบให้เปรียบเสมือนกับแผนที่โลกมีลวดลายที่วางซ้อนทับกัน ชั้นแรกทำจากทองและสลักลายกิโยเช่ ด้วยมือเป็นรูปคลื่น ฐานของหน้าปัด Sunburst ตกแต่งด้วยสีน้ำเงินเข้มที่ช่วยสร้างสัมผัสให้ลายคลื่นด้วยเช่นกัน โดยแผ่นแซฟไฟร์ถูกประดับด้วยเส้นเมอริเดียนจากโลหะ ผืนทวีปตกแต่งด้วยการขัดด้านแบบซาตินในแนวดิ่ง ในขณะที่ตามขอบตัดด้วยสีเมทัลลิคเทอร์ควอยซ์ และที่ขาดไม่ได้คือ วงขอบที่คอยทำหน้าที่ยึดโยงรายละเอียดต่างๆบนหน้าปัดเรือนเวลา เผยให้เห็นถึงความประณีตในการผลิตที่มีหลายขั้นตอนเพื่อให้ได้ทั้งด้านมิติและพื้นผิวนี้ซึ่งจะต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์
ความสะดวกในการอ่านค่าเวลาและรายละเอียดต่างๆ บนหน้าปัดถือเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นการออกแบบ การขัดแต่ง และการเลือกตำแหน่งในการจัดวางรายละเอียดต่างๆ บนหน้าปัดจึงมีความสำคัญ เทคนิคการขัดแต่งอย่าง brouillage กรรมวิธีการตกแต่งแบบโบราณถูกนำมาปรับปรุงและได้ช่วยมอบพื้นผิวที่มีความด้านแต่ก็ยังสามารถสะท้อนแสง ช่วยเสริมการอ่านเวลาอย่างมีชั้นเชิง และเมืองต่างๆ ที่อยู่ในแต่ละเขตเวลาเผยอยู่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และสมอโลหะที่ปรากฏด้านบนหน้าต่างนี้จะช่วยระบุสถานที่
เข็มนาทีและชั่วโมงมีการเคลือบสารเรืองแสงเพื่อความสะดวกในการอ่านเวลาในยามค่ำคืน มาตรวัดแสดงเวลากลางวันและกลางคืนที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกามาพร้อมกับจานหมุนที่มีการสลักลายดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ด้วยมือเพื่อมอบรายละเอียดที่สมจริง ในขณะที่ดวงอาทิตย์เฉิดฉายด้วยโรสโกลด์ ดวงจันทร์ชุบโรเดียมก็ส่องประกายสีเทาลุ่มลึก ส่วนหน้าต่างที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาบอกวันที่ผ่านเข็มแบบเรโทเกรดปลายเข็มโค้งมนทรง “ตัวยู” คอยทำหน้าที่ระบุวันที่อยู่ข้างใต้
ทั้งหมดนี้คือความยอดเยี่ยมและความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่หยุดนิ่งในด้านเทคนิคของการผลิตนาฬิกาจาก Breguet ซึ่งทำให้ 5557-Marine Hora Mundi คือ นาฬิกาเพื่อนักเดินทางตัวจริง ใช้งานได้ง่ายและสะดวก โดยที่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา และความงดงามตามแบบฉบับของแบรนด์ในทุกรายละเอียด