• แบรนด์ที่น่าสนใจ

การสร้างสไตล์ Vintage ที่ก้าวข้ามยุคสมัยของนาฬิกา OMEGA

07 พ.ย. 2024

การสร้างสไตล์ Vintage ที่ก้าวข้ามยุคสมัยของนาฬิกา OMEGA - Cortina Watch Thailand

ในอาณาจักรแห่งเรือนเวลา คงมีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านศิลปะแห่งความสง่างามเหนือกาลเวลาเหมือนกับ OMEGA นาฬิกาที่มีชื่อเสียงด้านความเที่ยงตรง และประสิทธิภาพระดับสูง รวมถึงความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ที่เชื่อมต่อเสน่ห์จากอดีตกับความดึงดูดใจที่ร่วมสมัย แต่ความหลงใหลที่คงอยู่อย่างยาวนานไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลลัพธ์ของปรัชญาการออกแบบที่พิถีพิถันในการให้ความสำคัญทั้งรูปแบบ และฟังก์ชั่น เพื่อเป็นหลักประกันให้นาฬิกาของ OMEGA ยังคงมีสายสัมพันธ์ และเป็นที่ปรารถนาของผู้คนในทุกช่วงวัย

จากคอลเลคชั่น Constellation ที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของแบรนด์สู่เรือนเวลาแห่งการผจญภัย Seamaster การออกแบบที่ซับซ้อนของ OMEGA ได้ผสมผสานรายละเอียด และองค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์เพื่อย้ำเตือนความทรงจำที่น่าประทับใจจากอดีตที่หยั่งรากลึกจนมาถึงปัจจุบัน ในบทความนี้เราจะเดินทางข้ามกาลเวลา เพื่อสำรวจทางเลือกสำคัญของงานดีไซน์ที่สืบทอดสไตล์แบบวินเทจ (Vintage) ของ OMEGA และทั้งหมดนี้ช่วยปกป้องมรดกที่สืบทอดในโลกแห่งการสร้างสรรค์นาฬิกาได้อย่างไร

องค์ประกอบการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ในนาฬิกา Vintage จาก OMEGA

ความมุ่งมั่นของ OMEGA ในการสร้างดีไซน์ที่เหนือกาลเวลาสามารถเห็นได้จากองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์อันงดงามในนาฬิการุ่นเก่าแก่สไตล์ Vintage ด้วยรายละเอียดของงานฝีมือที่พิถีพิถันไม่เพียงจะเพิ่มความสวยงามที่ดึงดูดใจเท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพของฟังก์ชั่นโดยรวม และแสดงการอ่านค่าเวลาบนนาฬิกาที่ชัดเจน

1. หน้าปัดแบบ Pie-Pan

เป็นที่ยอมรับว่าองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุดในดีไซน์นาฬิกา Vintage ของ OMEGA คือหน้าปัดแบบ Pie-pan (รูปทรงถาดพาย) ที่มีความพิเศษจนทำให้คอลเลคชั่น Constellation แตกต่างจากรุ่นอื่น โดยชื่อที่เกิดจากรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ จะยกบริเวณจุดศูนย์กลางหน้าปัดขึ้นมาเป็นระนาบเดียวกัน และไล่ระดับลาดลงบริเวณขอบตัวเรือน เหมือนถาดพายที่คว่ำลง การออกแบบที่สร้างการเล่นของแสง และเงาเพื่อดึงดูดสายตา รวมทั้งเพิ่มความลึก และมิติโดยรวมของหน้าปัดนาฬิกา

หน้าปัดแบบ Pie-pan ปรากฎขึ้นครั้งแรกในโมเดล Constellation ยุคแรกที่เปิดตัวเมื่อปี 1952 จากแรงบันดาลใจในความสำเร็จของ Centenary นาฬิกา Chronometer ของ OMEGA ที่ผลิตจำนวนจำกัดในช่วงปี 1945

แม้ว่าจุดเริ่มต้นของรูปทรงหน้าปัดแบบนี้จะมีการถกเถียงกันในบางครั้ง โดยนักสะสมนาฬิกาบางคนเลือกใช้คำว่า Faceted (เหลี่ยมเพชร) หรือ Twelve-sided (สิบสองเหลี่ยม) แต่ชื่อ Pie-pan เป็นที่ยอมรับมายาวนานในการเรียกของช่างทำนาฬิกา จนกลายเป็นเหมือนอีกชื่อหนึ่งของนาฬิกา Constellation จาก OMEGA

2. ขานาฬิกา Lyre Lugs

เส้นโค้งที่สวยงามของขานาฬิกาแบบ Lyre Lugs ทำให้นึกถึง พิณ – เครื่องดนตรียุคโบราณกลายเป็นอีกองค์ประกอบของดีไซน์เหนือกาลเวลาที่เพิ่มความสง่างามให้หลายโมเดลของ OMEGA ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา รูปทรงที่สง่างามนี้ไม่เพียงสร้างเสน่ห์ดึงดูดสายตาเท่านั้น แต่ยังมีหน้าที่สำคัญในการทำให้ตัวเรือนเหมือนเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับสายนาฬิกา

ขานาฬิกา Lyre Lugs ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในช่วงกลางทศวรรษ 1960 ด้วยการติดตั้งในนาฬิกาคอลเลคชั่น Seamaster จนกลายเป็นส่วนสำคัญในภาษาการออกแบบของ OMEGA และปรากฎในหลายโมเดลรวมถึง Seamaster Aqua Terra, Seamaster Professional 300M Diver, Planet Ocean และรุ่นสำคัญอย่าง Speedmaster

นอกเหนือจากบทบาทการใช้งานแล้ว ขานาฬิกา Lyre Lugs ยังช่วยเพิ่มความสวยงามโดยรวมให้นาฬิกา ด้วยเส้นโค้งที่งดงาม ความพลิ้วไหวที่ช่วยเพิ่มสัมผัสความสง่างาม และความหรูหรา โดยเฉพาะเมื่อจับคู่กับตัวเรือนทรงกลมของนาฬิกาสไตล์ Vintage จะยิ่งช่วยยกระดับความโดดเด่น และสร้างความดื่มด่ำ แต่โดยพื้นฐานขานาฬิกา Lyre Lugs คือตัวแทนการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างรูปทรง และฟังก์ชั่น จนกลายเป็นเอกลักษณ์ปรัชญาการออกแบบที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงของ OMEGA

3. เข็มนาฬิกาแบบ Dauphine และหลักชั่วโมง Arrowhead

นาฬิกา OMEGA Vintage หลายครั้งแสดงให้เห็นการผสมผสานความคลาสสิกของเข็มนาฬิกา Dauphine และหลักชั่วโมง Arrowhead โดยเข็ม Dauphine ที่มีรูปทรงคล้ายเหลี่ยมเพชรปลดปล่อยบรรยากาศแห่งความสง่างามอันประณีตพร้อมนำเสนอการอ่านค่าเวลาที่ชัดเจน รวมถึงปฏิสัมพันธ์ของแสงบนพื้นผิวที่เป็นเหลี่ยมช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์การมองเห็น และการอ่านค่าเวลาที่แม่นยำถึงจะอยู่ภายใต้สถานการณ์แสงที่น้อยมากก็ตาม

เพื่อเสริมความโดดเด่นให้เข็มนาฬิกา Dauphine การเลือกใช้หลักชั่วโมง Arrowhead รูปทรงลูกศรทำให้การอ่านค่าบนหน้าปัดสะดวกสบายขึ้น การออกแบบที่มีเหลี่ยมมุมช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้หน้าปัดนาฬิกา สร้างความแตกต่างในการมองเห็นกับส่วนโค้งที่นุ่มนวลของชุดเข็ม และตัวเรือน เมื่อรวมเข้ากับเข็มแบบ Dauphine กับหลักชั่วโมง Arrowhead จะสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของสไตล์ และฟังก์ชั่น ตอกย้ำให้เห็นความมุ่งมั่นของ OMEGA ในความพิถีพิถันของการสร้างสรรค์เรือนเวลาที่สะท้อนดีไซน์ที่เหนือกาลเวลา

โมเดลสัญลักษณ์ของ OMEGA: การเดินทางข้ามกาลเวลา

ตลอดประวัติศาสตร์ความสำเร็จ OMEGA นำเสนอโมเดลที่เป็นสัญลักษณ์มากมายที่ไม่เพียงผ่านการทดสอบการแสดงเวลาเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวกำหนดปรัชญาการออกแบบของแบรนด์ และความสามารถพิเศษด้านเทคนิค มาร่วมเจาะลึก 2 คอลเลคชั่นที่มีชื่อเสียงมากที่สุด – Constellation และ Seamaster – เพื่อทำความเข้าใจว่าเหตุใดทั้ง 2 โมเดลถึงสะท้อนความมุ่งมั่นของ OMEGA ในการสร้างความสง่างามเหนือกาลเวลา และประสิทธิภาพที่ยั่งยืน

Omega Constellation

คอลเลคชั่น Constellation ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวของมรดกที่สืบทอดจากอดีตกับความรู้สึกของการดีไซน์ร่วมสมัย ในขณะที่หน้าปัดทรง Pie-pan ยังคงเป็นองค์ประกอบที่มีเอกลักษณ์ การพัฒนาเพิ่มเติมรายละเอียดพิเศษในรูปทรง และพื้นผิว เพื่อสร้างรูปแบบที่สวยงาม และมีความทันสมัยมากขึ้น ชุดกรงเล็บ (Claw) อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของพวกเขา ในช่วงแรกที่นำมาใช้จะมีความโดดเด่น และเพิ่มเหลี่ยมมุมให้ตัวเรือน ก่อนจะถูกปรับขนาดเพื่อผสานให้เป็นหนึ่งเดียวกับขอบหน้าปัด และตัวเรือน ทำให้เกิดรูปทรงที่เพรียวบาง และความสวยงามของแสงเงามากขึ้น

เช่นเดียวกับขอบตัวเรือนมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ รวมทั้งตัวเลขโรมันที่เล็กลงหรือการตกแต่งด้วยเพชรที่ถูกนำมาแทนหลักชั่วโมงขนาดใหญ่ของโมเดลยุคแรก การเพิ่มความลาดเอียงของตัวเรือน และสายนาฬิกาช่วยเสริมให้ Constellation มีความดึงดูดใจที่ร่วมสมัย สร้างสัมผัสที่พลิ้วไหว และความคล่องตัวในการสวมใส่

Omega Seamaster

คอลเลคชั่น OMEGA Seamaster ผ่านความเปลี่ยนแปลงด้านเทคนิค และหลักสุนทรียศาสตร์เพื่อให้ตามทันความต้องการของนักสำรวจโลกใต้น้ำ ในช่วงแรกโมเดล Seamaster มีประสิทธิภาพในการกันน้ำ แต่พื้นฐานการออกแบบคือเหมาะกับการสวมใส่ในทุกวัน จนกระทั่งการเปิดตัว Seamaster 300 ในปี 1957 OMEGA สร้างสถานะที่แข็งแกร่งของแบรนด์สู่วงการนาฬิกาดำน้ำระดับมืออาชีพ

โครงสร้างตัวเรือนที่แข็งแกร่งของ Seamaster 300 รวมทั้งขอบหน้าปัดแบบหมุนทิศทางเดียว และหลักชั่วโมงเคลือบสารเรืองแสงกลายเป็นพื้นฐานสำหรับนวัตกรรมแห่งอนาคต ก่อนที่โมเดล Seamaster รุ่นต่อมาเพิ่มความล้ำหน้าทั้งด้านวัสดุ, ระดับการกันน้ำลึก และเทคโนโลยีระบบกลไก เพื่อรับรองความสามารถในการทนทานต่อสภาพแวดล้อมใต้น้ำที่เลวร้ายที่สุด

ในส่วนของหลักสุนทรียศาสตร์ Seamaster มีความเปลี่ยนแปลงตามเทรนด์การออกแบบร่วมสมัยพร้อมรักษาเอกลักษณ์หลักของแบรนด์ โดยลวดลายคลื่นบนหน้าปัดอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของพวกเขาถูกนำเสนอเป็นครั้งแรกในทศวรรษ 1990 จนกลายเป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ ขณะที่ตัวเรือน และการออกแบบขอบตัวเรือนมีความเปลี่ยนแปลงเพื่อให้มีความเพรียวบาง เหมาะกับสรีรศาสตร์ของร่างกายมากขึ้น

คุณค่าทางวัฒนธรรมแห่งการดีไซน์ของ OMEGA

ปรัชญาการออกแบบของ OMEGA ก้าวข้ามขอบเขตการผลิตนาฬิกาแบบดั้งดิม สร้างสถานะของพวกเขาให้กลายเป็นพื้นฐานของการสร้างสรรค์เรือนเวลา โดยนาฬิกาที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ของการผจญภัย และความสำเร็จเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนความสง่างามเหนือกาลเวลาที่สร้างความหลงใหลให้ผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกา และผู้คนมากมาย อิทธิพลของ OMEGA แผ่ขยายไกลออกไปจากอาณาจักรนาฬิกา โดยสร้างเรื่องราวเป็นที่จดจำในวัฒนธรรมป็อปร่วมสมัย และมอบแรงบันดาลใจสู่ผู้คนในหลายเจเนอเรชั่นทั้งกลุ่มลูกค้า และผู้ผลิตนาฬิกา

OMEGA บนจอภาพยนตร์ และช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์

OMEGA บนจอภาพยนตร์ และช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์

นาฬิกา OMEGA มีบทบาทสำคัญในภาพยนตร์ที่ผู้คนทั่วโลกจดจำ ด้วยการเพิ่มมิติ และความสมจริงให้ตัวละครที่สวมใส่นาฬิกาของพวกเขา โดย Seamaster มีชื่อเสียงมากขึ้นจากการอยู่บนข้อมือของ James Bond สะท้อนให้เห็นความซับซ้อนในตัวตนที่กล้าหาญ และทำให้นาฬิการุ่นนี้มีสถานะเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม เช่นเดียวกับบทบาทของ Speedmaster ในภาพยนตร์ Apollo 13 ที่ไม่เพียงปรากฎในฉากเท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมในหน้าประวัติศาสตร์จากการเป็นอุปกรณ์สำคัญของนักบินอวกาศในการนำทางให้พวกเขากลับสู่โลก

นอกเหนือจากวงการภาพยนตร์ นาฬิกา OMEGA ยังคงปรากฎอยู่บนข้อมือของบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลระดับโลก และแสดงให้เห็นอิทธิพลทางวัฒนธรรมที่พวกเขามีส่วนร่วม นับตั้งแต่ความมีสไตล์ของ Elvis Presley กับ Constellation และเป็นนาฬิกาที่ John F. Kennedy ใส่เข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เหตุการณ์สำคัญเหล่านี้ช่วยยกระดับชื่อเสียงของ OMEGA ในฐานะแบรนด์ที่มีความงดงามเหนือกาลเวลา และมรดกแห่งความสำเร็จที่ยั่งยืน นักฟิสิกส์ที่มีผลงานระดับโลกอย่าง Stephen Hawking และตำนานแห่งวงการฟอร์มูล่า วัน Michael Schumacher เลือกนาฬิกาของ OMEGA เช่นกัน แสดงให้เห็นความน่าหลงใหลของแบรนด์ที่เข้าถึงผู้คนในทุกวงการ และความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ความเหนือระดับ

มรดกเหนือกาลเวลาแห่งการดีไซน์นาฬิกาจาก OMEGA

OMEGA นำเสนอเอกลักษณ์พิเศษของการออกแบบนาฬิกา โดยกำหนดแนวทางที่ผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวระหว่างรูปแบบ, ฟังก์ชั่น และความเกี่ยวข้องทางวัฒนธรรม จนทำให้พวกเขามีสถานะเป็น 1 ในผู้นำของโลกแห่งเรือนเวลา โดยแบรนด์มีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอความเที่ยงตรง, นวัตกรรม และความสวยงามที่พิถีพิถัน จนกลายเป็นการสืบทอดมรดกแห่งเรือนเวลาที่เป็นสัญลักษณ์ข้ามผ่านยุคสมัย และยังคงส่งต่อแรงบันดาลสู่บรรดาผู้หลงใหลนาฬิกา และนักออกแบบจากรุ่นสู่รุ่น

การออกแบบที่ซับซ้อนของ OMEGA ตั้งแต่หน้าปัดทรง Pie-pan ที่น่าหลงใหลจนถึงความสง่างามของขานาฬิกาแบบ Lyre Lugs เป็นมากกว่าความงดงามทางสายตา แต่ยังแสดงให้เห็นความใส่ใจในทุกรายละเอียดของแบรนด์ และงานฝีมือที่ทุ่มเทการสร้างนาฬิกาให้มีทั้งความสวยงาม และรองรับการใช้งานจริง องค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ถูกหล่อหลอมเข้ากับประวัติศาสตร์ความสำเร็จของ OMEGA และคุณค่าทางวัฒนธรรมเป็นหลักประกันของเสน่ห์ที่ไม่เปลี่ยนแปลง และความสง่างามเหนือกาลเวลา

ไม่ว่าคุณจะหลงใหลเสน่ห์แบบย้อนยุคของ Constellation หรือจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยของ Seamaster คอลเลคชั่นนาฬิกาของ OMEGA พร้อมมอบการเดินทางข้ามกาลเวลาที่น่าหลงใหล, นำเสนอวิวัฒนาการความเปลี่ยนแปลงของแบรนด์ และความมุ่งมั่นเพื่อสร้างความเหนือระดับที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง จากนี้เราขอเชิญทุกคนร่วมสัมผัสเรือนเวลาทั้งแบบ Vintage และร่วมสมัยของ OMEGA ที่บูติก Cortina Watch Thailand เพื่อค้นหาสไตล์ที่เหนือกาลเวลา และนาฬิกาลักชัวรี่ที่คู่ควรที่สุดเพื่อร่วมเดินทางกับคุณตลอดไปand’s evolution and unwavering commitment to excellence. We invite you to explore Omega‘s vintage and modern timepieces at Cortina Watch Thailand, where you can experience firsthand the brand’s evergreen style and discover the perfect luxury watch to accompany you on your own journey through life.