04 ต.ค. 2024
ตอนที่ Patek Philippe เปิดตัว Ref. 4910/1201R ในงานแสดงนาฬิกา Watches and Wonders ที่เจนีวา เป็นการนำเสนอความแปลกใหม่ของหน้าปัดสีม่วงที่มีโทนสดใสลงตัวกับการตกแต่งพื้นผิวที่โดดเด่น นับเป็นจุดสูงสุดของเทรนด์ที่ Patek Philippe เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน หากย้อนกลับไปสู่ปี 2004 Patek Philippe นำเสนอนาฬิกา Quartz รุ่นหนึ่งออกมา Aquanaut Luce Ref. 5067A ที่มีให้เลือก 6 โทนสีตั้งแต่สีขาวจนถึงสีกากี (Khaki), สีส้มลูกพลับ และสีม่วงลูกพลัม นับเป็นยุคสมัยของแฟชั่นที่มีความโดดเด่น และ 2 ผู้บริหารระดับสูงของ Patek Philippe ตัดสินใจเลือก Aquanaut Luce เพื่อสะท้อนจิตวิญญาณเหล่านั้น
ช่วงก่อนปี 1920 หน้าปัดนาฬิกาเกือบทั้งหมดจะเป็นสีขาวหรือสีเงินเท่านั้น โดยอาจมีบางครั้งที่เห็นหน้าปัดสีดำหรือโรสโกลด์ ยกเว้นเพียง Rare Handcraft เรือนเวลาที่ประยุกต์งานหัตถกรรมศิลปะด้วยการลงยาแบบอินาเมล (Enamel) หรือการตัดต่อลายไม้ (Wood Marquetry) บนหน้าปัด ผู้ผลิตนาฬิกาชั้นสูงที่มีความพิถีพิถันอย่าง Patek Philippe อาจใช้เวลานานกว่าจะเปลี่ยนจากการใช้เพียงสีดำ, สีเงิน หรือสีขาวบนหน้าปัด โดยผู้ผลิตนาฬิกาแห่งเจนีวา นำเสนอหน้าปัดที่มีโทนสีอื่นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1968 กับโมเดล Golden Ellipse
Patek Philippe Ref. 3548 Golden Ellipse นับเป็นโมเดลแรกของซีรีส์ที่เลือกใช้โทนสีน้ำเงิน Royal Blue บนหน้าปัดแบบ Sunburst เพิ่มความโดดเด่นให้ตัวเรือนสีทอง
หน้าปัดสีน้ำเงินแบบ Sunburst บนตัวเรือนทองคำที่มีความโดดเด่นยกระดับด้วยความเรียบง่ายสไตล์ Minimalist และการออกแบบนาฬิกายุคใหม่ การเพิ่มนาฬิกาสปอร์ตเข้ามาทำให้ Patek Philippe เลือกใช้สีน้ำเงินที่สดใส (Cool Blue) บนหน้าปัดของ Nautilus Ref. 3700/1A ที่มีการแกะสลักลวดลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ และในปี 1982 หน้าปัดสีน้ำตาลอ่อน (Tropical Brown) ถูกนำมาใช้ครั้งแรกใน Golden Ellipse Ref. 3738 และเพียงไม่นานหน้าปัดโทนสีน้ำตาลนี้ถูกนำไปใช้กับคอลเลคชั่นอื่นๆ ของพวกเขา
การเลือกใช้โทนสีที่มีความสดใสทำให้ Aquanaut Luce เปรียบเสมือตัวแทนความสนุก และเอกลักษณ์แห่งแฟชั่น แตกต่างจาก Aquanaut ที่ให้ความสำคัญกับการเป็นนาฬิกาดำน้ำที่เป็นเหมือนต้นแบบ การนำเสนอความมีสีสันทำให้เกิดการจดจำจากทั้งผู้คนที่เกี่ยวข้อง และผู้ที่ชื่นชอบ Patek Philippe หลังจากนั้นในปี 2021 พวกเขาแต่งเติมความใหม่ให้ Aquanaut Luce ด้วยการปรับขนาด และเพิ่มรายละเอียดของดีไซน์ พร้อมการคืนชีพให้โมเดลสีกากีจากปี 2024 กลับมาในชื่อ Ref. 5267/200A
Patek Philippe Ref. 5267/200A-011 Aquanaut Luce จากปี 2021 มีต้นแบบจาก Aquanaut Luce รุ่นแรกที่เปิดตัวเมื่อปี 2004
หน้าปัดโทนสีใหม่หลายแบบได้รับการเปิดตัวในคอลเลคชั่น Complications และ Ladies กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมภายในบริษัทที่ถูกผลักดันจากการบริหารของ Thierry Stern และต่อไปนี่คือนาฬิกาบางส่วนที่มีความโดดเด่นของสีสัน
Patek Philippe World Time Chronograph Ref. 5930G-011 ผลิตแบบลิมิเต็ดเพื่อเปิดตัวในงาน Watch Art Grand Exhibition 2019 ที่สิงคโปร์ นับเป็นครั้งแรกที่นำสีแดงมาใช้บนหน้าปัดนาฬิกากลไกแสดงเวลารอบโลก
เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว Patek Philippe เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ 5 เรือน เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดงาน Watch Art Grand Exhibition ที่มาริน่า เบย์ แซนดส์ เธียเตอร์ โดยการจัดงานมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับการฉลองครบรอบ 200 ปี เซอร์ Stamford Raffles บิดาผู้ก่อตั้งสิงคโปร์ยุคใหม่ และหนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ Ref. 5930G-011 World Time Chronograph ที่ได้รับการยกย่องในระดับเดียวกัน
นาฬิกาเรือนนี้นำเสนอ 2 ระบบกลไก Complication ที่มีความซับซ้อนอันเป็นเอกลักษณ์ของ Patek Philippe – กลไกจับเวลา Flyback Chronograph และการแสดงเวลารอบโลก World Time โดยหน้าปัดลวดลายกิลโยเช่ (Guilloché) ตกแต่งด้วยมือพร้อมการใช้รูปแบบวงกลมกระจายออกจากจุดศูนย์กลาง บนหน้าปัดติดตั้งสเกลบอกนาที และวงแหวนสีแดงแสดงเวลามาตรฐานกรีนิช (Greenwich) โดยวงแหวนสีดำบริเวณขอบตัวเรือนจะแสดงชื่อเมืองสำคัญทั่วโลก โดยจะมีชื่อของสิงคโปร์อยู่ในการแสดง 24 เขตเวลา หน้าปัดด้านในยังคงมีลวดลาย Guilloché พร้อมความโดดเด่นของการไล่เฉดสีแดงจนกลายเป็นสีดำให้เข้ากับวงแหวนแสดงชื่อเมืองที่อยู่รอบนอก
หน้าปัดเคลือบแล็คเกอร์สีแดงมีการไล่เฉดสีดำบริเวณขอบตัวเรือนของ Patek Philippe Perpetual Calendar Chronograph Ref. 5271/12P-010 ลงตัวกับการนำทับทิมที่เจียระไนรูปทรง Baguette ตกแต่งขอบตัวเรือน, ขานาฬิกา และตัวล็อกสาย
จนมาถึงปัจจุบันนาฬิกา Patek Philippe เพียงโมเดลเดียวที่ยังคงใช้หน้าปีดสีแดงคือ – Perpetual Calendar Chronograph Ref. 5271/12P-010 ประดับด้วยอัญมณี และเคลือบแล็คเกอร์สีแดงบนหน้าปัดพร้อมการไล่เฉดสีดำบริเวณขอบตัวเรือน โดยมีการประดับทับทิมทรง Baguette รวมทั้งหมด 80 เม็ด บนขอบตัวเรือน, ขานาฬิกา และตัวล็อกสาย นอกจากนี้ยังมีการฝังเพชรที่มีความงดงามเพียงหนึ่งเดียวบริเวณฐานตัวเรือน เพื่อสร้างความแตกต่างจากรุ่นตัวเรือนแพลตินั่ม และทองคำขาว
หน้าปัดแบบ Sunburst โทนสีเขียว Olive Green ของนาฬิกา Patek Philippe Twenty~4 Automatic Ref. 7300/1200A-011 เปิดโอกาสให้นักออกแบบมีตัวเลือกสีใหม่เพื่อนำมาทดลองในอนาคต
นอกจากสีเขียวกากีของ Aquanaut Luce Ref. 5067A-001 โทนสีเขียวยังมีความเชื่อมโยงกับหน้าปัดโทนสีใหม่ของ Patek Philippe โมเดลอื่น ตัวอย่างแรกคือการได้เห็นสีเขียวมะกอก (Olive Green) ในโมเดล Ref. 7130R-014 World Time และ Ref. 5204G-001 Split-Seconds Chronograph with Perpetual Calendar รวมทั้งการปรากฎอยู่บน Twenty~4 Automatic เมื่อปี 2018 ซึ่งมีการนำองค์ประกอบการออกแบบที่แตกต่างมาสู่คอลเลคชั่น เริ่มตั้งแต่การใช้เทคนิค Dentelle ที่เป็นการสร้างสรรค์พิเศษเฉพาะของ Patek Philippe ด้วยการฝังอัญมณีสลับเป็น 2 แถวช่วยเพิ่มความเปล่งประกายที่งดงาม
ในตอนนี้หน้าปัดแบบ Sunburst โทนสีเขียว Olive Green สามารถพบในหลายคอลเลคชั่นของ Patek Philippe รวมถึง Ref. 5204G-001 ที่เป็นการนำ 2 กลไกที่มีความซับซ้อนระดับรางวัลของผู้ผลิตนาฬิกาของเจนีวา – ระบบจับเวลา Chronograph แบบแยกเข็มวินาที (Spilt-seconds) และปฏิทินถาวร (Perpetual Calendar) มาอยู่ในเรือนเดียวกัน โดยใช้วิธีไล่เฉดสีบนหน้าปัดเพื่อสร้างความแตกต่างจากโมเดล Twenty~4
นาฬิกาสำหรับสุภาพสตรีรุ่นใหม่ยังเป็นการติดตั้งกลไก Calibre 26-330 S C เป็นครั้งแรก ด้วยความยอดเยี่ยมของการสร้างสรรค์จนทำให้มีความบางเพียง 3.30 มม. พร้อมติดตั้งแผ่นจานถ่วงน้ำหนักขนาดใหญ่ (Full-sized Rotor) ทำจากทองคำ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะรับช่วงต่อจาก Calibre 324 ระบบกลไกที่ยังคงใช้งานในปัจจุบันกับนาฬิการะบบกลไกปฏิทินของ Patek Philippe และโมเดล Calatrava Pilot Travel Time
ระบบกลไกเดียวกันนี้ (โดยมีการเพิ่มช่องหน้าต่างแสดงวันที่) เคยถูกนำมาใช้เมื่อปี 2021 ในการเปิดตัว Patek Philippe Nautilus ทั้งรุ่น Ref. 5711/1A-014 หน้าปัดโทนสีเขียวมะกอก และ Ref. 5711/1300-011 เพิ่มความหรูหราด้วยการประดับเพชร ถึงจะมีการผลิตออกมาเพียงช่วงสั้นๆ ความสนใจในนาฬิกาทั้ง 2 โมเดลนี้ แสดงให้เห็นว่าเฉดสีเขียวสามารถดึงดูดใจกลุ่มคนทุกเพศทุกวัยอย่างแท้จริง
การผลิตแบบจำกัดของ Patek Philippe Nautilus หน้าปัดสีฟ้า Tiffany Blue ในโมเดล Ref. 5711/1A-018 เพื่อฉลองความร่วมมือที่ยาวนานกับ Tiffany & Co. ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ในสีหน้าปัดที่โดดเด่นที่สุดของ Patek Philippe
ในช่วงปลายปี 2021 Patek Philippe มอบบทเพลงอำลาครั้งสุดท้ายกับ Ref. 5711 ในรูปแบบการผลิตจำนวนจำกัด Ref. 5711/1A-018 จะมีเพียง 170 เรือน เพื่อเป็นการร่วมฉลอง 170 ปีของความร่วมมือระหว่าง Patek Philippe และ Tiffany & Co. ผู้ผลิตเครื่องประดับลักชัวรี่ของประเทศสหรัฐฯ โดยพวกเขาก้าวข้ามข้อกำหนดของการผลิตนาฬิกาปกติ ด้วยการสลักชื่อของทั้ง 2 แบรนด์ลงบนหน้าปัด จนกลายเป็นสิ่งที่นักสะสมทุกคนต้องการครอบครอง และทำให้นาฬิกาลิมิเต็ดเอดิชั่นเรือนนี้สร้างสถิติหลายต่อหลายครั้งของการเป็นนาฬิกา Patek Philippe ที่มีราคาแพงที่สุดที่เคยมีการนำออกมาประมูล
Patek Philippe Ladies’ Calatrava Ref. 4997/200R-001 เปิดตัวด้วยโทนสีม่วงเข้ม ก่อนที่จะนำมาใช้กับนาฬิกาคอลเลคชั่นอื่นของแบรนด์ในปัจจุบัน
แม้ว่าสีน้ำเงินอมเขียวจะไม่เคยปรากฎในแคตตาล็อกของ Patek Philippe แต่สีม่วงถูกต้อนรับเข้าเป็นสมาชิกอันทรงเกียรติในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เริ่มจากนาฬิกาสุภาพสตรี Calatrava Ref. 4997/200R-001 โทนสีม่วงเข้ม Aubergine ที่มีความโดดเด่น และเพียงไม่นานโทนสีนี้ถูกนำไปใช้กับนาฬิกาสุภาพสตรี Nautilus และ Twenty~4 ที่อาจดูเหมือนการลงสีที่เรียบง่าย แต่ความจริงมีขั้นตอนที่ซับซ้อนของการเคลือบแล็คเกอร์เงาด้วยมือมากกว่า 50 ชั้นบนหน้าปัดแต่ละเรือน เพื่อสร้างลวดลายคลื่นที่มีชีวิตชีวา และเพิ่มมิติความโดดเด่นของโทนสี
แนวทางของ Patek Philippe ไม่ได้เพิ่มสีสัน และรูปแบบใหม่โดยไม่อาจคาดการณ์ความสำเร็จ โดยการเปิดตัวโมเดลใหม่ทุกครั้งเป็นผลลัพธ์ของการศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ และพิจารณาตัวเลือกที่สอดคล้องกับหลักปรัชญาความสง่างามชั่วนิรันดร์ของแบรนด์ โดยหน้าปัดโทนสีแรกที่เพิ่มเข้ามาคือ สีน้ำเงิน ก่อนที่ทุกวันนี้โทนสีน้ำเงินเข้ม (Midnight Blue) ถูกสงวนไว้สำหรับนาฬิกาที่มีความเป็นทางการ และเอกลักษณ์ของการออกแบบ ขณะที่ความไม่เป็นทางการแต่สง่างามปรากฎให้เห็นกับ Calatrava Pilot Travel Time Chronograph Ref. 5924G-001 หน้าปัดสีใหม่น้ำเงินเทา (Blue-gray) ที่สร้างความเชื่อมโยงที่น่ายกย่องกับการเดินตะเข็บด้ายสีขาวบนสายนาฬิกากับหน้าปัดสีดำ กลายเป็นโทนสีที่ใช้งานได้หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อพร้อมกำหนดการผสมผสานระหว่างโทนสีอุ่นกับโทนสีเย็นเพื่อนำไปใช้งานกับวัสดุคุณภาพสูงอื่นๆ
Patek Philippe นำเสนอสีใหม่น้ำเงินเทา (Blue-gray) บนหน้าปัดนาฬิกา โดยเป็นการเชื่อมโยงโทนสีอุ่น และโทนสีเย็นเข้าด้วยกันเพิ่มความสวยงามให้ตัวเรือนทองคำขาว และโรสโกลด์ ในภาพคือ Aquanaut และ Aquanaut Luce Travel Time โมเดล Refs. 5164G-001 และ 5269R-001 ตามลำดับ