ในปี 2024 Bvlgari ยกระดับความงดงามร่วมสมัยผ่านคอลเลคชั่น Bvlgari Aluminium พร้อมนำเสนอ 3 รูปแบบแนวความคิดที่ถูกรังสรรค์ขึ้นใหม่
ออกเดินทางท่องโลกด้วยนาฬิกา GMT ที่ยังคงยึดรูปแบบดั้งเดิมของการใช้สีดำ และสีขาวในการตบแต่งจนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ทุกคนจดจำ; เริ่มต้นการผจญภัยของคุณกับระบบกลไกโครโนกราฟของ Smeraldo หรือเลือกความคุ้นเคยที่เรียบง่ายของระบบกลไกอัตโนมัติใน Solotempo พร้อม 3 เข็มบอกเวลาสีขาวโดดเด่น
ในปี 1998 Bvlgari Aluminium กลายเป็นผู้พลิกโฉมวงการนาฬิกาโลกพร้อมปฏิวัตินิยามความหรูหราของช่วงเวลานั้นไปพร้อมกัน ด้วยการนำวัสดุอะลูมิเนียมมาใช้งานร่วมกับยาง นาฬิกาที่แสดงความเป็นสปอร์ตอย่างชัดเจน แต่ยังคงมีสไตล์ล้ำสมัย เพื่อนำเสนอในฐานะนาฬิกาที่อยู่บนจุดสูงสุดของนวัตกรรม และลวดลายกราฟิกที่โดดเด่นในแบบฉบับชาวอิตาเลี่ยนที่ไม่อาจปฏิเสธได้ รวมทั้งขอบหน้าปัดที่มีความหนาพร้อมสลักอักษร 14 ตัวที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของพวกเขาในปัจจุบันนั่นก็คือ Bvlgari Bvlgari
ข้ามมาสู่ปี 2020 ความมีเอกลักษณ์ และวิสัยทัศน์ที่พิเศษถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง ด้วยการขับเคลื่อนของระบบกลไกออโตเมติกที่ได้รับเกียรติให้เป็นนาฬิกาแห่งยุคสมัยระหว่างงานประกาศรางวัล GPHG 2020 รวมทั้งการได้รับรางวัลออกแบบยอดเยี่ยมจาก Red Dot Best of the Best 2023 ทำให้ Bvlgari Aluminium อยู่เหนือการแบ่งสไตล์ของนาฬิกา, ช่วงอายุ และเทรนด์ของสังคม ด้วยความกล้า และสไตล์ ก่อนที่รุ่นล่าสุดในปี 2024 จะสร้างเสน่ห์อันน่าหลงใหลขึ้นมาอีกครั้ง
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2024 เป็นอีกครั้งที่ Bvlgari Aluminium ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งยุคสมัยผ่าน 3 โมเดลรุ่นใหม่ที่โดดเด่น รวมทั้งเวอร์ชั่น GMT นาฬิกาที่สามารถดูเวลา 2 เขตเวลาพร้อมกัน ภายใต้โทนสีดำ และสีขาวที่สืบทอดมาจากอดีตพร้อมเพิ่มความเย้ายวนใจของสีแดง, โมเดลโครโนกราฟสำหรับรุ่น Smeraldo และกลไกออโตเมติกของ Solotempo ที่ตัวเรือนจะเป็นสีขาว Pristine White
นาฬิกาทุกเรือนเป็นเหมือนการพิสูจน์ให้เห็นคาแร็กเตอร์ที่มีเอกลักษณ์ และสัมผัสที่เฉียบคมในการออกแบบ การตีความของ Bvlgari Aluminium ด้วยการผสมผสานสไตล์ความเป็นอิตาลีที่มีความเฉพาะตัวเพื่อถ่ายทอดออกมาในรูปแบบที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และไม่เหมือนใคร การสร้างความเปลี่ยนแปลง และลวดลายกราฟฟิกที่คงความเป็นสัญลักษณ์แห่งวงการนาฬิกา ผลงานล่าสุดในปีนี้เป็นการก้าวสู่อีกระดับของความคิดสร้างสรรค์ และความแปลกใหม่
- Bvlgari Aluminium Black GMT นำเสนอความชัดเจนของการอ่านเวลา เลือกใช้สีดำ, สีขาว และสีแดง ที่ถูกจัดวางเพื่อสร้างความโดดเด่นเช่นเดียวกับตอนเปิดตัวคอลเลคชั่นนี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1998 ตัวเรือนขนาด 40 มม. แสดงเอกลักษณ์ที่โดดเด่น สร้างความรู้สึกน่าค้นหา และผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน พร้อมกระตุ้นจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย และความรักในการท่องเที่ยว การออกสำรวจในดินแดนที่ห่างไกลในเขตเวลาที่แตกต่าง
- Bvlgari Aluminium Chronograph Smeraldo การถ่ายทอดความสุข และปลดปล่อยความกังวลระหว่างช่วงวันหยุดพักผ่อนของชาวอิตาเลี่ยน (Vacanze Italiane) โดยหน้าปัดใช้วิธีไล่เฉดจากสีเขียวมรกตไปสู่สีขาว เพื่อจำลองบรรยากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนของเกาะซาร์ดิเนีย ฝาหลังแกะสลักเป็นลายเข็มทิศ Rosa dei venti ที่มีความสวยงามเข้ากับกล่องบรรจุนาฬิกาสีเขียวน้ำทะเลไล่เฉดพร้อมเพิ่มความเอ็กซ์คลูซีฟของนาฬิกาเรือนนี้ด้วยการผลิตในจำนวนจำกัด
- ความงดงามแบบมินิมอลลิสต์ที่นำเสนออย่างตรงไปตรงมา ท้าทายบรรทัดฐานที่ถูกกำหนดมายาวนาน Bvlgari Aluminium White Automatic เผยโฉมออกมาเพื่อรับอากาศบริสุทธ์ในฤดูร้อน การผสมผสานระหว่างความคลาสสิกที่เป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัยกับความสง่างามร่วมสมัย โดยนาฬิกาลิมิเต็ดเอดิชั่นเรือนนี้โดดเด่นด้วยการเลือกใช้โทนสีเดียว และให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา
Bvlgari Aluminium Black GMT
การเดินทางยุคใหม่
ในปี 1998 Bvlgari Aluminium นำเสนอความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้วยการผสมผสานวัสดุ และลวดลายกราฟฟิกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สร้างความดึงดูดสายตาด้วยดีไซน์ที่ตัดกันของสีดำบนหน้าปัดสีขาวนวล หลังจากนั้นในปี 2020 Bvlgari ผลิตนาฬิกาที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของแบรนด์ออกมาอีกครั้ง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะรักษาเอกลักษณ์ของการผสมผสานวัสดุที่ล้ำสมัยกับการดีไซน์ที่เชื่อมโยงกับความร่วมสมัยตามที่เคยเป็น โดยหนึ่งในวัสดุที่ผลิตจากเทคโนโลยีขั้นสูงคืออะลูมิเนียมอัลลอย 6082 ที่ถูกใช้ในการผลิตอากาศยาน และแผ่นยาง FKM ที่มีความทดทานสูงสำหรับการผลิตนาฬิกา
ในปี 2021 สตูดิโอออกแบบของ Bvlgari เพิ่มตัวเลือกในคอลเลคชั่นด้วยการเผยโฉม Bvlgari Aluminium พร้อมระบบแสดงเวลา GMT (Greenwich Mean Time-เวลามาตรฐานกรีนิช) เพิ่มมิติใหม่สำหรับนักเดินทาง โดยช่วงแรกจะเป็นตัวเรือนสีน้ำเงินสามารถแสดงเวลา 2 โซนพร้อมกัน เพื่อเป็นอีกแรงบันดาลใจให้ผู้ครอบครองออกผจญภัยสู่ทั่วทุกมุมโลก และเป็นการแสดงความเคารพปีที่เปิดตัว Bvlgari Aluminium เป็นครั้งแรก โดยมีการติดตั้งภาพโฆษณาบนลำตัวเครื่องบินโบอิ้ง 747 ของสายการบิน Alitalia ที่เดินทางข้ามทวีป
สำหรับรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวในปีนี้มีการเพิ่มความพิเศษให้ Bvlgari Aluminium Black GMT ด้วยการกลับสู่จุดกำเนิด, พลังแห่งความดึงดูดสายตา, หน้าปัดสีขาวตัดกับขอบตัวเรือนสีดำ และสายที่ผลิตจากวัสดุยางคุณภาพสูง โดยฟังก์ชั่นบอกเวลา GMT จะใช้สีแบ่งเป็นสีแดงสำหรับเวลา ‘กลางวัน’ และสีดำสำหรับเวลา ‘กลางคืน’ เพื่อความมั่นใจในการอ่านเวลาได้อย่างถูกต้อง เข็มชั่วโมงรองเพิ่มความน่าสนใจด้วยการออกแบบให้มีลักษณะเหมือนลูกธนูตบแต่งด้วยสีแดงตรงปลายเข็ม พร้อมทั้งเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova® ที่เข็มชั่วโมง และเข็มนาที เพิ่มประสิทธิภาพในการอ่านค่าในสภาวะที่แสงน้อย
การออกแบบที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานของ Bvlgari Aluminium Black GMT ทำให้การตั้งเวลาท้องถิ่น และโซนเวลาอื่นมีความสะดวกเพียงแค่ปุ่มเม็ดมะยมด้านข้าง รวมทั้งช่องแสดงวันที่ถูกวางไว้อย่างลงตัวในตำแหน่ง 3 นาฬิกา โดยการตีความใหม่ครั้งนี้ของ Bvlgari Aluminium GMT เผยให้เห็นสัมผัสเห็นความประณีตงดงามที่ดึงดูดใจนักเดินทางที่ต้องการความพิเศษเหนือระดับ
Bvlgari Aluminium Chronograph Smeraldo
การผจญภัยในท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
จิตวิญญาณของ ‘La Dolce Vita’ (ชีวิตที่เลิศหรู) ถูกนำเสนอผ่านนาฬิการุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น Capri เมื่อปี 2023 และต่อเนื่องมาถึงฤดูใบไม้ผลิ 2024 Bvlgari Aluminium Chronograph Smeraldo ที่จำลองบรรยากาศในวันพักผ่อนของเมืองชายทะเลของประเทศอิตาลี สร้างความรู้สึกเหมือนกำลังดำดิ่งลงสู่น้ำทะเลสีฟ้าของซาร์ดิเนีย
นาฬิกาที่ผลิตจำนวนจำกัด 1,000 เรือน เพิ่มความน่าหลงใหลด้วยหน้าปัดที่มีการไล่เฉดสีจากสีขาวสู่สีเขียวเทอร์ควอยซ์เพื่อให้เข้ากับวัสดุยางสีเขียวเข้มที่ใช้กับขอบหน้าปัด, สายนาฬิกา และสายข้อต่ออะลูมิเนียม ทำให้นาฬิกาเรือนนี้สร้างอารมณ์ที่สนุกสนาน และน่าค้นหา โดยจะมีหน้าปัดย่อยเป็นโทนสีเขียวเข้ม, เข็มนาทีสีเขียว และช่องหน้าต่างแสดงวันที่บริเวณ 4:30 นาฬิกา ให้ความรู้สึกของฤดูร้อนที่มีชีวิตชีวา และงดงาม
หัวใจสำคัญของ Bvlgari Aluminium Chronograph Smeraldo คือระบบกลไกออโตเมติกแบบจับเวลา B130 พร้อมฟังก์ชั่นแสดงวันที่ ปุ่มเริ่ม/หยุด และรีเซ็ตที่ใช้งานง่าย ความแม่นยำในการจับเวลาตามความต้องการของผู้สวมใส่ โดยตัวเรือนทรงสปอร์ตผลิตจากวัสดุไทเทเนียม ด้านหลังสลักลายเข็มทิศ Rosa dei venti ทำให้นาฬิการุ่นพิเศษนี้เป็นเหมือนการนำเสนอบรรยากาศช่วงซัมเมอร์ของประเทศอิตาลี และอีกความเอ็กซ์คลูซีฟเป็นการจัดทำกล่องเก็บนาฬิกาที่จำลองท้องทะเลที่สะท้อนสีเขียวระยิบระยับท่ามกลางแสงแดด
Bvlgari Aluminium White Automatic
ความมีชีวิตชีวาของสีขาว
Bvlgari นำเสนอความแปลกใหม่เพื่อการก้าวสู่อีกระดับของนาฬิกาที่เป็นไอคอนของพวกเขา Bvlgari Aluminium ถูกนำเสนอผ่านโทนสีขาวทั้งหมด ความโดดเด่นที่แสดงออกถึงพลังความมีชีวิตชีวาอย่างชัดเจน โดยขอบหน้าปัดขนาดใหญ่สลักอักษร 14 ตัว Bvlgari Bvlgari เพื่อรำลึกถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของแบรนด์ในปี 1977 เป็นดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากเหรียญในยุคโรมันโบราณที่จะมีการประทับพระนามของจักรพรรดิ์เพื่อถ่ายทอดความสง่างามแบบอิตาเลี่ยนที่แท้จริง สีขาว, ความบริสุทธิ์, การปลดปล่อย, ความเหมาะสม และความหลากหลาย ทำให้นาฬิกาที่ผลิตเพียง 1,000 เรือนรุ่นนี้ เพิ่มความสง่างามเมื่อยามอยู่บนข้อมือด้วยดีไซน์ที่ไม่จำกัดเพศหรือวัย การเลือกใช้วัสดุที่ล้ำสมัยทำให้นาฬิกาที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ยังคงมีทั้งความน่าหลงใหล และความทนทาน
ความพิเศษของนาฬิกาเรือนนี้ประกอบด้วยหน้าปัดอะลูมิเนียมที่ตบแต่งด้วยหลักชั่วโมง และเข็มนาฬิกาชุบโรเดียม พร้อมเคลือบสาร Super-LumiNova® เพื่อให้เปล่งประกายในยามค่ำคืน บริเวณ 3 นาฬิกาจะมีหน้าต่างบอกวันที่ผสมผสานการใช้งานกับความสมดุลของสุนทรียศาสตร์ เพิ่มพลังความมีชีวิตชีวาด้วยโทนสีขาวที่ทำให้นาฬิการุ่นใหม่นี้นำเสนอลวดลายกราฟิกที่เป็นตำนานของแบรนด์ และความโดดเด่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ร่วมสัมผัสคอลเลคชั่นนาฬิกาจาก Bvlgari ที่ Cortina Watch Boutiques หรือทางออนไลน์
