ด้วยคุณสมบัติทางเทคนิคที่น่าประทับใจทั้งความทนทานต่อรอยขีดข่วนทุกรูปแบบจากการที่เซรามิกกลายเป็นวัสดุหลักของการสร้างนาฬิกาชั้นสูง
การจับคู่ของสีดำเข้มที่ให้ความรู้สึกแรงกล้า วัสดุหลักที่อ้างอิงข้อมูลโดยตรงจากค็อกพิตต์ และหน้าจอแสดงข้อมูลของเครื่องบินกลายเป็นแนวทางหลักของดีเอ็นเอ และการออกแบบของแบรนด์ โดยเป็นครั้งแรกที่ Bell & Ross นำเทคนิคนี้มาใช้กับนาฬิกากลุ่ม Urban ร่วมกับโทนสีดำที่ได้รับความนิยม จนทำให้ตอนนี้เซรามิกกลายเป็นวัสดุที่ถูกนำมาใช้กับ 3 โมเดลของ BR 05 ที่เปรียบเสมือนคอลเลคชั่นอันล้ำค่าของ Bell & Ross
BR 05 Black Ceramic
วัสดุทางเทคนิคชั้นสูงเพื่อนาฬิกาแห่งนวัตกรรม
สำหรับ Bell & Ross การออกแบบนาฬิกาเซรามิกจะต้องมีการสวมใส่ที่ลงตัวเป็นธรรมชาติเสมอ ก่อนจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตนาฬิกาในช่วงทศวรรษ 1980 และกลายเป็นวัสดุล้ำสมัยที่ได้รับความนิยม วัสดุเซรามิกทางเทคนิค (Technical Ceramic) ถือเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมการบิน และอวกาศ ด้วยความทนทานระดับสูง แต่มีน้ำหนักเบา ทำให้ช่วงแรกจะถูกนำมาใช้เพื่อผลิตส่วนหัวของจรวด และแผ่นป้องกันความร้อนของยานอวกาศ – นับเป็นการใช้งานระดับมืออาชีพที่สมบูรณ์แบบสอดคล้องกับจุดกำเนิดแรงบันดาลใจของ Bell & Ross จากการใช้แผงหน้าปัดควบคุมห้องนักบินมาตีความเพื่อเป็นกุญแจสำคัญในการออกแบบเรือนเวลาของพวกเขา
การเป็นวัสดุทางเทคนิคระดับสูงทำให้การทำงานกับเซรามิกมีรายละเอียดสำคัญในหลายขั้นตอน ทั้งการเผาผนึก (Sintering) หรือการหลอม (Fusion) เพื่อให้ส่วนผสมระหว่างผงเซอร์คอเนียม อ็อกไซด์ (Zirconium Oxide) และสารยึดเกาะโพลีเมอร์ (Polymer) ผ่านกระบวนการเผาในอุณหภูมิความร้อนที่สูงมาก (โดยทั่วไปจะอยู่ประมาณ 1,450 องศา) กระบวนการที่ซับซ้อนเป็นแก่นสำคัญในการสร้างนาฬิกาเซรามิกให้มีความแข็งแกร่ง ด้วยการทำให้วัสดุเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญระดับสูงเพื่อความสมบูรณ์แบบ
นับจากนาฬิกาเซรามิกเรือนแรกของแบรนด์ถูกนำเสนอภายใต้ชื่อ BR 01 Ceramic ในปี 2011 ทีมช่างผลิตนาฬิกาของ Bell & Ross ให้ความใส่ใจอย่างใกล้ชิดกับกระบวนการผลิตที่โรงงานของพวกเขา เพื่อถ่ายทอดความเชี่ยวชาญทั้งหมดสู่การออกแบบนาฬิกาเซรามิก BR 05 เรือนใหม่
วัสดุหนึ่งเดียวในการสร้างนาฬิกาที่ทนทานไร้รอยขีดข่วน
ในบรรดาวัสดุโลหะที่มีความทนทานยาวนานสูงสุด เซรามิกถือเป็นวัสดุที่ไม่เกิดรอยขีดข่วน ทำให้นาฬิกาที่ผลิตจากวัสดุชนิดนี้ผ่านการทดสอบของกาลเวลา รองจากเพชรแล้วเซรามิกถือเป็นวัสดุที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และมีน้ำหนักเบากว่าเหล็ก ช่วยปรับอุณหภูมิของร่างกายเมื่อสัมผัสกับผิวหนัง และไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ เป็นวัสดุที่สัมผัสนุ่มสร้างความสบายในการสวมใส่ ด้วยคุณสมบัติด้านเทคนิค และรูปทรงที่งดงาม ทำให้ดึงดูดกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบนาฬิการ่วมสมัยที่ให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมทั้งคุณสมบัติที่ทนทานเป็นพิเศษของเซรามิก โดย BR 05 รุ่นใหม่ทั้ง 3 โมเดลจาก Bell & Ross สร้างสถานะของการเป็นนาฬิกาพร้อมมาตรวัด (Instrument Watch) ที่สามารถสวมใส่ในทุกสถานการณ์ และทุกโอกาส
การย้อมสีวัสดุเพื่อสร้างเรือนเวลาสีดำเข้มอันแรงกล้า
ความพิเศษที่เพิ่มเข้ามาของนาฬิกา BR 05 เซรามิกสีดำรุ่นใหม่: การถ่ายทอดพลังแห่งสุนทรียภาพที่น่าหลงใหล, วัสดุหลายชิ้นที่ผ่านการย้อมสีทำให้มีความเงางามเสมอกันโดยไม่เกิดรอยขีดข่วน โดย BR 05 Black Ceramic และ BR 05 Skeleton Black Ceramic ผ่านการขัดเคลือบเงาแบบซาติน ในขณะที่ตัวเรือน และสายนาฬิกาของ BR 05 Skeleton Black Lum Ceramic จะเป็นพื้นผิวด้านของเซรามิกพ่นทรายช่วยสร้างความดึงดูด เพิ่มความสปอร์ต และเส้นสายที่เฉียบคม ถึงจะเป็นที่รับรู้โดยทั่วกันว่า “สีดำไม่ใช่สี” ผู้ชื่นชอบงานศิลปะร่วมสมัย และผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศยานสามารถรับรู้ได้ว่าเฉดสีอันน่าหลงใหลแสดงให้เห็นความเหนือกาลเวลา, ความสปอร์ต และสง่างาม
นาฬิกาเซรามิกรุ่นใหม่ BR 05 ยังคงรักษาแนวทางดั้งเดิมของการนำเสนอฟังก์ชั่นที่หลากหลาย โดยรุ่นเซรามิกด้านเข็มแบบ Skeleton จะมีการเคลือบสารเรืองแสงเพื่อความชัดเจนในการอ่านค่าบนหน้าปัดตอนกลางคืน ตัวเรือน และสายซ่อนคุณสมบัติที่พิเศษ ฝาปิดหลังเป็นกระจกแซฟไฟร์ใส นาฬิกาเซรามิก BR 05 ทั้ง 3 โมเดลผ่านขัดตอนการเคลือบผิวสีดำรูธีเนียม ติดตั้งระบบกลไกอัตโนมัติ BR-CAL.321 และ BR-CAL.322 ที่มีพลังงานสำรอง 54 ชั่วโมง
ตัวเรือนเซรามิกขนาด 41 มม.
อีกเสน่ห์ความพิเศษคือโทนเฉดสีดำที่ไม่เพียงสร้างความโดดเด่นท่ามกลางแสงธรรมชาติที่สร้างความดึงดูดใจให้ผู้พบเห็น แต่ยังทำให้วัตถุมีขนาดเล็กลง เพื่อชดเชยจุดนี้ โดยทำให้ชิ้นงานยังคงไว้ซึ่งความน่าหลงใหล และทรงพลัง Bruno Belamich ผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟ และผู้ร่วมก่อตั้ง Bell & Ross เลือกจะเพิ่มมิติตัวเรือนออกมาอีกเล็กน้อย โดยนับเป็นครั้งแรกที่พวกเขานำเสนอ BR 05 Auto ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 41 มม.
สายเซรามิกที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเรือน
กลุ่มนาฬิกา BR 05 ยังคงยึดมั่นหลักการออกแบบรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสโค้งมนพร้อมการตกแต่งที่ร่วมสมัย เปล่งประกายความความสง่างามที่ล้ำสมัยนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2019 นาฬิกาจาก BR 05 เป็นที่ยอมรับในฐานะนาฬิกาที่สวมใส่สำหรับการใช้ชีวิตในเมืองจนไปถึงกิจกรรมต่างๆ นาฬิกาเซรามิกสีดำเวอร์ชั่นใหม่ยังคงถ่ายทอดปรัชญาดั้งเดิม พร้อมทั้งทำให้คอลเลคชั่น BR 05 เติบโตขึ้น ด้วยจุดแข็งของความเป็นเรือนเวลาที่มีสไตล์รวมเป็นหนึ่งเดียวกับสายนาฬิกา
“สายนาฬิกาออกแบบให้เข้ากับตัวเรือนที่เป็นเหมือนข้อกำหนดของแบรนด์ พร้อมสร้างมิติให้นาฬิกากับการเป็นครั้งแรกที่ขานาฬิกาเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรือน รูปแบบดีไซน์นี้กลายเป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรมผลิตนาฬิกานับตั้งแต่ปี 1970 เมื่อถ่ายทอดมาสู่ Bell & Ross เราจะได้นาฬิกาที่มีรูปทรงกะทัดรัด, กลมกลืน และเหมาะสมกับสรีระ” Belamich กล่าวย้ำถึงหลักการออกแบบของพวกเขา
3 โมเดลร่วมสมัยรุ่นใหม่
นาฬิกาเซรามิกสีดำรุ่นใหม่จาก Bell & Ross จะมาพร้อม 3 รุ่นที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว โดย 2 รุ่นจะกลายเป็นสมาชิกประจำในคอลเลคชั่นของแบรนด์ และเรือนที่ 3 จะผลิตแบบลิมิเต็ด เอดิชั่น 500 เรือน
ในรุ่นสามเข็ม BR 05 Black Ceramic ผ่านการขั้นตอนเคลือบซาตินเพื่อสร้างความโดดเด่นให้หน้าปัดสีดำ Sunburst เข็มนาฬิกาแบบ Skeleton ชุบโรห์เดียมพร้อมเคลือบสารเรืองแสงสีขาว มีตัวเลือกทั้งสายนาฬิกาเซรามิกที่เป็นส่วนหนึ่งของตัวเรือน และสายยาง
รุ่นถัดมาตัวเรือนขัดเงาแบบซาตินเช่นกัน โดย BR 05 Skeleton Black Ceramic มีความโดดเด่นที่หน้าปัดสามารถมองทะลุเห็นระบบกลไกไขลานอัตโนมัติ BR-CAL.322 เคลือบพื้นผิวสีดำรูธีเนียม
และสุดท้ายการนำแซฟไฟร์รมควันสีดำมาผ่านขั้นตอนพ่นทรายเพื่อสร้างสรรค์หน้าปัดของ BR 05 Skeleton Black Lum Ceramic โดยพื้นหลังแบบโปร่งเห็นตัวเรือนชุบโรห์เดียม เพิ่มความดึงดูดใจด้วยสารเรืองแสงสีเขียวเข้ม ความเอ็กซ์คลูซีฟของนาฬิการุ่นนี้ทำให้มีการผลิตจำนวนจำกัด 500 เรือน และจำหน่ายเฉพาะตัวเรือนสายเซรามิกสีดำด้านเท่านั้น
ทั้งหมดนี้กลายเป็นความท้าทายใหม่ของทีมงาน Bell & Ross โดยเป็นครั้งแรกที่สร้างนาฬิกา BR 05 ด้วยวัสดุเซรามิก ตัวเรือน และสายนาฬิกาถูกรวมเข้าด้วยกัน เป็นเหมือนการนำเสนอเทคนิคที่โดดเด่น และความงดงามของการสร้างสรรค์ ทำให้คอลเลคชั่น BR 05 รุ่นล่าสุด ทั้ง 3 เรือนมีคาแร็กเตอร์เฉพาะตัวที่พร้อมจะสร้างช่วงเวลาสำคัญของตัวเอง
BR 05 Chrono Grey Steel & Gold
อุปกรณ์คู่ใจของผู้คนในเมืองใหญ่
การผสมผสานขั้นสูงระหว่างประสิทธิภาพ และความสง่างาม การตัดกันของทองคำ และเหล็กไม่เคยสร้างความผิดหวังในการดึงดูดผู้ที่หลงใหลความงดงามที่ซับซ้อนของเรือนเวลา โดย BR 05 Chrono Grey Steel & Gold รุ่นใหม่เป็นการนำรูธีเนียม และทองคำโรสโกลด์มาใช้งานร่วมกันเพื่อให้ Bell & Ross นำเสนอนาฬิกาสไตล์เครื่องประดับ
นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 โดยสะท้อนหลักการพื้นฐานของช่างผลิตนาฬิกาของแบรนด์ทั้งการแสดงค่าเวลาที่ชัดเจน, ฟังก์ชั่น, ความน่าเชื่อถือ และความแม่นยำ คอลเลคชั่น BR 05 นำเสนอสไตล์แบบคนเมืองที่โดดเด่น การผสมผสานรูปทรงโค้งมน และสี่เหลี่ยม เส้นสายบนตัวเรือนที่คล้ายรูปทรงเรขาคณิต สร้างความแตกต่างให้แบรนด์ Bell & Ross
โครงสร้างตัวเรือน BR 05 ก้าวข้ามข้อกำหนดรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส และในขณะเดียวกันได้ก้าวข้ามความสมบูรณ์แบบของรูปทรงวงกลมกลายเป็นการกำหนดรูปแบบของตัวเอง และเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความเชื่อมั่นในสไตล์ และความทรงพลังบนข้อมือ เป็นการรวบรวมพลังของเมืองใหญ่, ช่วงจังหวะชีวิต และความมีชีวิตชีวา BR 05 Chrono กลายเป็นนาฬิกาพร้อมมาตรวัดของนักสำรวจแห่งเมืองใหญ่
เรือนเวลาที่กำเนิดจากการผสมผสานวัสดุ
ในช่วงทศวรรษ 1970 โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐฯ การสร้างนาฬิกาจะใช้วัสดุทองคำ และเหล็กมาผสมผสานกัน รวมถึงนาฬิกาสายเหล็กที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเทรนด์นี้ยังส่งผลให้นาฬิกาสไตล์สปอร์ตล้ำสมัยได้รับความนิยมต่อเนื่องยาวนาน สำหรับ Bell & Ross การตัดสินใจเปลี่ยน BR 05 ให้มีทั้งความเป็นคนเมือง และสปอร์ตถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ใช่ครั้งแรกที่นาฬิกากลุ่มนี้ต้อนรับโมเดลที่ใช้วัสดุ 2 ชนิด แน่นอนว่านักสะสมนาฬิกายังคงจดจำ BR 05 Chrono Edición Limitada ที่มีความเชื่อมโยงกับโลกแห่งซิการ์ระดับสูง พร้อมทั้งตัวเรือน และสายนาฬิกาที่ผลิตด้วยทองคำ และเหล็ก รวมทั้งหน้าปัดโทนสีน้ำตาล Havana ที่เปิดตัวเมื่อปี 2022
สร้างเอกลักษณ์ด้วยสไตล์ที่แข็งแกร่ง Bell & Ross ต้องการกำหนดความงดงามในแบบของตัวเอง โดยนาฬิกาโครโนกราฟรุ่นใหม่ BR 05 Grey Steel & Gold นำเสนอแนวทางที่โดดเด่นด้วยการผสมผสานวัสดุ และโทนสี ตัวเรือนขนาด 44 มม. ที่มีประสิทธิภาพป้องกันน้ำลึก 100 เมตร ผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง พร้อมเคลือบผิวแบบซาติน และขัดเงาเพื่อแสดงสถาปัตยกรรมของเส้นสาย ขอบตัวเรือน และข้อต่อตรงกลางของสายนาฬิกาที่ถูกรวมเข้าด้วยกันเป็นวัสดุโรสโกลด์ 18K เพิ่มลวดลายด้วยหน้าปัดสีเทารูธีเนียมที่เพิ่มการสะท้อนด้วยขั้นตอนการชุบ Galvanization ในตำแหน่ง 3 นาฬิกาจะมีหน้าปัดย่อยแสดงการจับเวลาแบบโครโนกราฟ และหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีในตำแหน่ง 9 นาฬิกา โดยมีหน้าต่างแสดงวันที่อยู่ระหว่างตำแหน่ง 4 และ 5 นาฬิกา
ชุดเข็ม และหลักชั่วโมงเคลือบสารเรืองแสงสร้างโทนสีที่ตัดกัน และการเล่นของแสง พร้อมทั้งความชัดเจนของการแสดงค่าเวลาทั้งชั่วโมง, นาที, วินาที, วันที่ และฟังก์ชั่นจับเวลา โดยหน้าปัดย่อย และเครื่องหมายแสดงหลัก 12 กับ 6 มีความโดดเด่นด้วยตัวอักษรที่ออกแบบเฉพาะของ Bell & Ross ลงตัวกับหน้าปัดที่เป็นทองคำทั้งหมด อีกหนึ่งรายละเอียดที่ไม่อาจมองข้ามคือการออกแบบเม็ดมะยม และปุ่มกดระบบจับเวลาโครโนกราฟที่เป็นระดับเดียวต่อเนื่องกับตัวเรือน นำเสนอสัมผัสที่หรูหรา โดย BR 05 Chrono เลือกตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป และเก็บไว้เฉพาะแก่นสำคัญเท่านั้น
ความแข็งแกร่งในการออกแบบ
นาฬิกา BR 05 Chrono Grey Steel & Gold เลือกใช้ขั้นตอนการผลิตนาฬิกาที่ร่วมสมัยหลายอย่างทั้งการออกแบบให้สายเหล็กเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรือน “ตัวเรือน และสายนาฬิกาเป็นส่วนเดียวกัน การออกแบบลักษณะนี้ทำให้นึกถึงนาฬิกาในช่วงทศวรรษ 1970 เมื่อถูกนำมาใช้กับความสุนทรียศาสตร์ของ Bell & Ross ไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้ผลลัพธ์ที่แสดงถึงความชัดเจน, ทันสมัย และโดดเด่นสะดุดตา” Belamich พูดถึงนาฬิกาที่ออกแบบให้รองรับการใช้งานที่หลากหลาย และความสะดวกในการอ่านเวลา
สายนาฬิกาผลิตจากเหล็กสีโรสโกลด์เป็นส่วนหนึ่งของตัวเรือนแบบไร้รอยต่อ โดยสายยางสีดำสามารถถอดเปลี่ยนได้สร้างความแตกต่างให้นาฬิการุ่นนี้ และเพิ่มคาแร็กเตอร์ที่มีความสปอร์ตมากขึ้น
ความหลากหลายของระบบโครโนกราฟยุคใหม่
หัวใจสำคัญของนาฬิกาในกลุ่ม BR 05 โดย Grey Steel & Gold รุ่นล่าสุดจะเป็นส่วนหนึ่งของนาฬิกาโครโนกราฟที่จะใช้ระบบกลไกไขลานอัตโนมัติ BR-CAL.326 ที่ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพมายาวนาน และได้รับการปรับปรุงใหม่โดยทีมช่างนาฬิกาของ Bell & Ross ระบบกลไกที่ทนทานแสดงให้เห็นความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในทุกสถานการณ์ของชีวิตผู้คนยุคใหม่ ความถี่ในการเดิน 28,000 ครั้งต่อชั่วโมง พร้อมทั้งระบบกำลังสำรอง 60 ชั่วโมง มั่นใจกับความเที่ยงตรง โดยจะสามารถมองเห็นการทำงานของกลไกผ่านกระจกใสด้านหลัง และเฟืองฉลุโปร่งที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของระบบกลไกจาก Bell & Ross
ความประณีต และรายละเอียดที่งดงามที่ผสมผสานความร่วมสมัยทุกอย่างเข้าด้วยกัน ทำให้นาฬิกาโครโนกราฟสไตล์คนเมืองเรือนนี้ถ่ายทอดความสวยงามที่เหนือธรรมดา
BR-X5 Black Titanium
ตัวเรือนไทเทเนียมน้ำหนักเบา
นาฬิกาพร้อมมาตรวัด (Instrument Watch) ระดับมืออาชีพทุกเรือนที่ Bell & Ross พัฒนาขึ้นจะมีความทันสมัยทุกด้าน ทั้งการออกแบบด้วยวัสดุโลหะน้ำหนักเบาที่มีชื่อเสียง และในรุ่นใหม่ของ BR-X5 Black Titanium ก็เป็นเช่นเดียวกัน
ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของการใช้งานด้านอากาศยาน ไทเทเนียมยังกลายเป็นผู้ชนะในการผลิตนาฬิการ่วมสมัยชั้นสูง ด้วยคุณสมบัติของการมีน้ำหนักเบา, ความสบายในการสวมใส่ และความยืดหยุ่น ทำให้วัสดุทางเทคนิคขั้นสูงชนิดนี้นำเสนอสไตล์ในแบบของตัวเอง ด้วยโทนสีที่เรียบง่ายมีความแตกต่างจากสแตนเลสสตีล และทองคำขาวเพียงไม่มากนัก แต่น้ำหนักที่เบากว่าเหล็กประมาณ 1 ใน 3 และมีอัตราส่วนต่อความแข็งแรงที่สูงกว่า ทำให้ไทเทเนียมยังมีคุณสมบัติที่โดดเด่นอีกมากมาย ทั้งการไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ไปจนถึงความทนทานต่อการกัดกร่อน ก่อนที่ทั้งหมดจะถูกประกอบเข้ากับตัวเรือน X5 ด้วยวิธีการประกบแบบแซนด์วิชที่ออกแบบให้มีน้ำหนักเบา และทนทาน
พลังแห่งการออกแบบ
สถาปัตยกรรมของตัวเรือนที่ใช้วัสดุผสมสร้างความบริสุทธิ์ และพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ความเบา และคงทน ด้วยการประกอบจากวัสดุป้องกันน้ำคุณภาพสูงเพื่อปกป้องระบบกลไกภายในตัวเรือนแบบกลวงขนาด 41 มม. ที่ผลิตจากไทเทเนียมเพิ่มความเบา และการสวมใส่ที่สบาย ขอบตัวเรือนรูปทรงสี่เหลี่ยม และกระจกแซฟไฟร์ถูกยึดบนสเกล 2 แผ่นเพื่อกำหนดส่วนบน และส่วนล่างของตัวเรือน ทั้งหมดถูกปกป้องจากน้ำด้วยการยึดสกรู 4 ตัว เพื่อปิดตัวเรือนทั้งหมดให้สนิท การประกอบแบบหลายชั้นทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ การเลือกไทเทเนียมเกรด 2 ในการผลิต ทำให้ตัวเรือนมีโทนสีเทาที่มองเห็นได้ง่าย พื้นผิวเคลือบด้านป้องกันแสงสะท้อนพร้อมทั้งผ่านการพ่นทรายขนาดเล็ก เป็นทางเลือกที่เรียบง่ายในการนำเสนอนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์การดีไซน์เฉพาะตัว
หลักการทำงานที่ครอบคลุมทุกรูปแบบ
สำหรับนาฬิกากลุ่ม BR-X5 เป็นอีกครั้งที่ Bell & Ross ก้าวสู่มาตรฐานใหม่ของสไตล์ และประสิทธิภาพ “ด้วยระบบกลไกที่ผลิตขึ้นเอง และแนวทางการออกแบบที่ซับซ้อน BR-X5 กลายเป็นนาฬิกาที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่แสดงถึงประสบการณ์ในการผลิตนาฬิกา” Belamich กล่าวถึงแนวทางการสร้างสรรค์ที่แสดงให้เห็นความตั้งใจที่ชัดเจนของ “ฟังก์ชั่นการทำงานเป็นศูนย์กลาง”
ชุดเข็มบอกเวลามีความชัดเจน และแม่นยำในการอ่านค่า บนหน้าปัดมีช่องแสดงวันที่ขนาดใหญ่ในตำแหน่ง 3 นาฬิกา และหน้าต่างรูปทรงวงกลมแสดงพลังงานสำรองที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา เข็มชั่วโมง และนาที (ยกเว้นเข็มวินาที) เคลือบสารเรืองแสงสีขาวแบบ SLN X1 เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนทั้งเวลากลางวัน และกลางคืน โดยตัวเลขบอกหลักนาทีจะปรากฎอยู่บนขอบรอบตัวเรือน
ระบบกลไกประสิทธิภาพสูง: รับรองมาตรฐานโครโนมิเตอร์โดย COSC
เช่นเดียวกับนาฬิกาทุกเรือนในคอลเลคชั่น BR-X5 Black Titanium ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ BR-CAL.323 ทำงานที่ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (4 เฮิร์ตซ์) และกำลังสำรอง 70 ชั่วโมง ความแม่นยำระดับสูงของระบบกลไกนี้เป็นการทำงานร่วมระหว่างการหมุนของจานเหวี่ยง (Oscillating Weight) และจักรกรอกที่มีความเฉื่อยแปรผัน (Variable-inertia Balance Wheel) โดยสามารถเฝ้ามองการทำงานผ่านฝาหลังแซฟไฟร์ใสขนาดใหญ่
อีกหนึ่งความพิเศษของระบบกลไกที่พวกเขาคิดค้นขึ้นมาคืออุปกรณ์แก้ไขวันที่โดยสามารถปรับได้ตลอดเวลาที่ต้องการ พร้อมการรับประกันกลไก 5 ปีจากประสิทธิภาพที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว โดยเป็นนาฬิกาแบบโครโนมิเตอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสถาบันทดสอบความเที่ยงตรงของนาฬิกาแห่งสวิตเซอร์แลนด์ (Official Swiss Chronometer Testing Institute: COSC) ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จครั้งสำคัญ
ด้วยการออกแบบวัสดุไทเทเนียม, เทคนิคขั้นสูง และนวัตกรรม ทั้งหมดนี้ทำให้ BR-X5 เป็นเสมือนตัวแทนของ Bell & Ross ในการนำเสนอความร่วมสมัยของผู้เชี่ยวชาญการผลิตนาฬิกา เป็นการพบกันระหว่างวัสดุที่มีประสิทธิภาพสูงกับคอลเลคชั่นล้ำค่าของผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำ
ค้นหาคอลเลคชั่นนาฬิกาจาก Bell & Ross ที่ Cortina Watch Boutiques และผ่านช่องทางออนไลน์
