• คัดสรรโดยคอร์ติน่า
  • นาฬิกาใหม่
  • Watches and Wonders

นวัตกรรม และความสง่างาม: สัมผัสความยิ่งใหญ่ของ Watches and Wonders Geneva 2024

18 เม.ย. 2024

นวัตกรรม และความสง่างาม: สัมผัสความยิ่งใหญ่ของ Watches and Wonders Geneva 2024 - Cortina Watch Thailand

ในงานแสดงนาฬิกาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก Watches and Wonders 2024 ที่เมืองเจนีวา เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีการสร้างสถิติใหม่จาก 54 แบรนด์ที่เข้าร่วมในการเปิดเผยนวัตกรรมเรือนเวลาล่าสุดของพวกเขา

งานแสดงนาฬิกาที่ยิ่งใหญ่จัดรอบพิเศษให้กับสื่อมวลชน และผู้จัดจำหน่ายนาฬิกาจากทั่วโลก ระหว่างวันที่ 9-12 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนจะเปิดให้บุคคลทั่วไปมีโอกาสดื่มด่ำความหรูหราของบรรดานาฬิกาลักชัวรี่ ในวันที่ 13-15 เมษายน โดยมีบรรยากาศที่เป็นการผสมผสานระหว่างประเพณีดั้งเดิมกับดีไซน์ที่ล้ำสมัย บรรดาผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำของโลก และผู้สร้างนาฬิกาอิสระที่ต้องการนำเสนอผลงานสร้างสรรค์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดแห่งปี

เรื่องราวที่นำเสนอเป็นการให้ความสำคัญกับเรือนเวลาที่แสดงให้ถึงสุดยอดนวัตกรรม และงานศิลปะชั้นยอด พร้อมทั้งนำเสนอเทรนด์ที่จะกำหนดอนาคตการสร้างสรรค์นาฬิกา โดยปีนี้ไฮไลต์สำคัญคือการนำเสนอวัสดุด้านวิศวกรรม, การออกแบบที่ก้าวข้ามข้อกำหนดด้านสุนทรีภาพ และระบบกลไกอัจฉริยะที่พร้อมก้าวสู่ความท้าทาย และสร้างนิยามใหม่ให้กับคอนเซ็ปต์ของเครื่องบอกเวลา

Bell & Ross BR 05 Ceramic

Bell & Ross BR 05 Ceramic

นับเป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิตนาฬิกาแห่งกรุงปารีส เพิ่มมิติใหม่ให้กับ BR 05 คอลเลคชั่นที่ได้รับความนิยมสูงของพวกเขา ด้วยการเพิ่มตัวเรือนเซรามิก – วัสดุที่มีความแข็งแกร่ง และทนต่อรอยขีดข่วยในระดับสูง

คุณสมบัติพิเศษของเซรามิกทำให้มีความต้องการใช้งานสูงในวงการอากาศยาน และสำหรับโลกแห่งเรือนเวลา เซรามิก นับเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงเป็นรองเพียงแค่เพชรเท่านั้น รวมทั้งน้ำหนักที่เบากว่าวัสดุโลหะทุกชนิด เมื่อผ่านกระบวนการเผาอย่างถูกต้องจะได้เซรามิกที่มีความแข็งแรงกว่าเดิม แต่ให้ความสบายในการสวมใส่ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ และให้สัมผัสที่นุ่มนวลน่าหลงใหล โดยเซรามิกสีดำที่ใช้ในคอลเลกชั่น BR 05 Ceramic นำเสนอความสวยงามที่ทันสมัยและโฉบเฉี่ยว รวมทั้งการออกแบบอันโดดเด่นที่ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากแผงควบคุมบนเครื่องบิน

รุ่นล่าสุดของ BR 05 ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมโค้งมน โดยคอลเลคชั่นเซรามิกสีดำที่เปิดตัวนี้จะมี 3 โมเดล และหนึ่งในนั่นคือ BR 05 Ceramic นาฬิกาขัดเงาซาตินแบบสามเข็มเรือนนี้โดดเด่นด้วยหน้าปัด Sunburst สีดำวาว พร้อมชุดเข็มสไตล์ Skeletonised ชุบโรห์เดียม และเคลือบสารเรืองแสงสีขาว ฝาหลังเป็นกระจกแซฟไฟร์เปิดให้เห็นระบบกลไกออโตเมติก BR 05 Ceramic’s BR-CAL.321 เคลือบด้วยรูธีเนียมสีดำ มีกำลังสำรอง 54 ชั่วโมง แม้ว่าจะมีตัวเลือกสายยาง แต่ดูเหมือนว่าสายเซรามิกสีดำจะลงตัวมากที่สุด และยังแสดงให้เห็นจิตวิญญาณการเป็นนักบุกเบิกของ Bell & Ross กับการเป็นครั้งแรกที่พวกเขาผสมผสานตัวเรือน และสายนาฬิกาเข้ากับเซรามิก

ด้วยความเข้าใจว่าการเลือกใช้สีดำจะทำให้ทุกอย่างดูขนาดเล็กลง Bruno Belam ผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟ และผู้ร่วมก่อตั้ง Bell & Ross ตัดสินใจจะเพิ่มขนาดนาฬิกาเรือนนี้ออกมาเล็กน้อย กลายเป็นครั้งแรกที่โมเดล BR 05 Auto จะมีตัวเรือนขนาด 41 มม. ทำให้เพิ่มมิติมุมมองที่แตกต่างจากเดิม แต่ยังคงรับประกันว่านาฬิกาของพวกเขายังคงเปี่ยมด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น และทรงพลัง

Cartier Santos De Cartier Dual Time

Cartier Santos De Cartier Dual Time

ผู้ผลิตนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศสสานต่อการเดินทางเพื่อก้าวข้ามขอบเขต และท้าทายการรับรู้เรื่องเวลาด้วยนาฬิกาที่มีตัวเรือนขนาดใหญ่ Santos de Cartier Dual ที่เป็นการแสดงความเคารพต่อ Alberto Santos-Dumont ผู้บุกเบิกวงการการบินชาวบราซิลเลี่ยน และความสำเร็จของเขาในการพิชิตเส้นทางบิน ทำให้นาฬิการุ่นนี้ออกแบบให้ผู้สวมใส่สามารถดูเวลา 2 เขตเวลาที่แตกต่างกันได้อย่างสะดวกสบาย

ตัวเรือนขนาดใหญ่ขนาด 40.2 มม. x 47.5 มม. โดดเด่นด้วยกลไกการทำงานพร้อมระบบไขลานอัตโนมัติ การใส่เส้นสายตามหลักสรีรศาสตร์ และความพิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียด แสดงออกถึงความสง่างามที่ทนทานด้วยเข็มเรืองแสงเคลือบโรห์เดียม, เม็ดมะยม 7 แฉกที่โดดเด่น และหน้าปัดสีเทาในตำแหน่ง 6 นาฬิกา แสดงโซนเวลาที่ 2 ซึ่งสามารถปรับตั้งได้ด้วยตัวเอง

การบรรจบกันของความสามารถในการใช้งานจริง และความหรูหราโดยมีตัวเลือกสายนาฬิกาแบบเปลี่ยนได้ทั้งในรุ่นสายเหล็ก และสายหนังที่เกิดจากระบบ QuickSwitch ที่ได้รับสิทธิบัตรของ Cartier และระบบปรับขนาด SmartLink ช่วยให้มั่นใจว่าสวมใส่ได้พอดีทุกครั้งด้วยการที่ผู้สวมใส่สามารถปรับตำแหน่งข้อต่อให้เหมาะสมตามที่ต้องการโดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือใดๆ

Chopard Happy Sport

Chopard Happy Sport

นำเสนอการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Dancing Diamond การปล่อยให้เพชรเต้นรำอย่างพลิ้วไหวบนหน้าปัดนาฬิกาตามจังหวะการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่ โดย Chopard Happy Sport เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของพลังอำนาจ และความมั่นใจของผู้หญิงยุคใหม่นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1993 คอลเลคชั่นนี้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกซีซั่น ทั้งการเพิ่มสีสันที่สดใส และผสมผสานจิตวิญญาณแห่งความสุขในการใช้ชีวิต Joie De Vivre

ซีรีส์นาฬิการุ่นล่าสุดที่ผลิตจำนวนจำกัด 250 เรือน ขอบตัวเรือนล้อมรอบด้วยเพชรเพื่อเพิ่มความน่าหลงใหล และระบบกลไกโครโนกราฟ โดยหน้าปัดสีฟ้าน้ำทะเล Aquamarine เป็นการกำหนดโทนหลักของนาฬิกา เสริมความงดงามด้วยลวดลายกิโยลเช่ (Guilloché) สะท้อนให้เห็นจิตวิญญาณอิสระ และประดับอัญมณีบริเวณเม็ดมะยม โดยเฉดสีที่สดใสยังถูกใช้กับสายนาฬิกาที่ทำจากหนังจระเข้เคลือบเงาเพื่อสื่อถึงความรู้สึกสนุกสนาน

เรือนเวลาที่ถูกสร้างขึ้นด้วยงานฝีมือที่พิถีพิถัน โดยให้ความสำคัญกับสัดส่วนทองคำเพื่อให้ได้ความกลมกลืนอย่างสมบูรณ์แบบบนตัวเรือนขนาด 33 มม. ผลิตจากวัสดุโลหะ Lucent Steel ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Chopard โดยติดตั้งระบบกลไกอัตโนมัติ Chopard 09.01-C ที่มีกำลังสำรอง 42 ชั่วโมง

เพื่อให้เป็นไปตามความมุ่งมั่นของ Chopard ในการเป็นผลิตภัณฑ์ลักชัวรี่ที่ยั่งยืน ตัวเรือน Happy Sport ใช้วัสดุ Lucent Steel โลหะอัลลอยที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิ่ลอย่างน้อย 80 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นทางเลือกที่เพิ่มความน่าสวยงาม และความทนทานให้นาฬิการุ่นนี้ รวมทั้งสะท้อนให้เห็นงานฝีมือที่มีจริยธรรมต่อสังคมของแบรนด์ โดยนับตั้งแต่ปี 2023 Chopard ผลิตนาฬิกาตัวเรือนเหล็กจาก Lucent Steel เท่านั้นเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการรักษาสิ่งแวดล้อม

Grand Seiko Sport Collection Caliber 9R 20th Anniversary Limited Edition: SBGC275

Grand Seiko Sport Collection Caliber 9R 20th Anniversary Limited Edition: SBGC275

เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 2 ทศวรรษนาฬิกา Grand Seiko รุ่นแรกที่ขับเคลื่อนด้วยซีรีส์ระบบกลไก 9R Spring Drive คอลเลคลชั่น Grand Seiko Sport ต้อนรับเรือนเวลารุ่นใหม่ Spring Drive Chronograph GMT ด้วยแรงบันดาลใจจากแนวเทือกเขาโฮทากะในภูมิภาคชินชู ทางตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น – สถานที่ซึ่งนาฬิกา Grand Seiko Spring Drive ทั้งหมดถูกสร้างสรรค์ขึ้น – นาฬิการุ่นนี้รวบรวมความงดงามของทิวทัศน์ในตอนเช้าของฤดูร้อนถ่ายทอดผ่านหน้าปัดที่มีโทนสีเป็นเอกลักษณ์ การใช้ขั้นตอนเคลือบผิว Optical Multilayer Coating ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรด้วยวิธีการ Physical Vapour Deposition (PVD) ทำให้พื้นผิวหน้าปัดเปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีส้ม และสีแดงเมื่อมองจากมุมที่แตกต่างกันเหมือนเป็นการจำลองแสงแดดที่ส่องพาดผ่านแนวภูเขาในยามเช้า

ภายในตัวเรือนไทเทเนียมที่มีความยืดหยุ่นสูงขนาด 44.5 มม. ยังมีน้ำหนักเบา และความทนทานที่สามารถกันน้ำลึก 200 เมตร พร้อมเผชิญความท้าทายด้านกีฬาทุกรูปแบบ ความโดดเด่นของการออกแบบนาฬิกาเรือนนี้ได้แรงบันดาลใจจากสิงโตซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Grand Seiko นับตั้งแต่ปี 1960 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง และจิตวิญญาณความเป็นนักสู้ โดยแผงคอของเจ้าแมวยักษ์ที่สง่างามถูกนำมาถ่ายทอดผ่านรายละเอียดต่างๆ บนตัวเรือนที่มีความทรงพลังคล้ายกับกรงเล็บเชื่อมโยงกับขานาฬิกาที่สร้างความแตกต่างของโทนสีด้วยการขัดเงาที่ประณีตแบบซารัตสึ (Zaratsu)

หัวใจหลักของ Spring Drive Chronograph GMT คือกลไก Caliber 9R96 มอบความเที่ยงตรง, โดยมีการเดินที่แม่นยำ ±10 วินาทีต่อเดือน – เป็นการพัฒนาที่โดดเด่นเหนือกว่ารุ่นก่อน 9R86 พร้อมทั้งเคลือบสารเรืองแสงสีเขียว Lumibrite บนเข็มนาฬิกา และหลักชั่วโมงดัชนี และเข็มนาฬิกา GMT สีน้ำเงินเคลือบสารเรืองแสง และขอบตัวเรือนที่มีเลขหลักชั่วโมงเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนโดยไม่มีนาฬิกาเรือนใดเทียบได้ โดยรุ่นพิเศษนี้จะผลิตเพียง 700 เรือน และเริ่มต้นจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2024

H. Moser & Cie. Streamliner Tourbillon Skeleton

H. Moser & Cie. Streamliner Tourbillon Skeleton

ผลงานสร้างสรรค์นาฬิการะดับมาสเตอร์พีชแสดงถึงจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรม และความงดงามสไตล์มินิมอล ตัวเรือนโดดเด่นด้วยระบบกลไก One-minute Flying Tourbillon พร้อมติดตั้งสปริงต์คู่ได้รับการจัดวางโครงสร้างอย่างเชี่ยวชาญเพื่อให้เกิดมิติภายในตัวเรือน Streamliner ขนาด 40 มม.

หลังจาก H. Moser & Cie. เข้าสู่กลุ่มนาฬิกาสไตล์ Skeleton Watch ที่แสดงให้เห็นกลไกภายในเป็นครั้งแรกด้วย Pioneer Cylindrical Tourbillon Skeleton เมื่อปี 2022 ข้อมูลอ้างอิงล่าสุดยังคงให้คำจำกัดความของสุนทรียภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์นี้ ความโปร่งใสที่ประณีตเผยให้เห็นการทำงานภายในของกลไกนาฬิกา รวมถึงโรเตอร์แบบฉลุ และกระบอกกลไก ความใส่ใจของการตกแต่งที่สมมาตร และเรียบง่ายแสดงให้เห็นผ่านชิ้นส่วนต่างๆ ทั้งเพลตหลักที่เป็นสีดำเงาเชื่อมต่อเข้ากับบริดจ์ตอกย้ำความร่วมสมัยของนาฬิการุ่นนี้ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น

ตัวเรือนเหล็กกันกระแทกป้องกันน้ำลึกได้ 120 เมตร โดยการออกแบบ Streamliner Tourbillon Skeleton ยังคงให้ความสำคัญกับความสมมาตร และความสมดุล ด้วยรูปทรงแบบดั้งเดิม และการใส่เส้นสายที่ลื่นไหล โดยสายนาฬิกาโอบรับข้อมืออย่างสวยงาม พร้อมหลักชั่วโมงตบแต่งด้วยทองคำ และชุดเข็ม Globolight ช่วยให้สามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนในทุกสภาพแสง

เรือนเวลานี้ขับเคลื่อนด้วยกลไกที่ยอดเยี่ยม HMC 814 พร้อมกับหน้าปัดย่อยของฟังก์ชั่น One-minute Flying Tourbillon ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา ภายใต้การผลิตของ Precision Engineering AG บริษัทในเครือของ H. Moser & Cie โดยการออกแบบเชิงนวัตกรรมนี้ช่วยเพิ่มความแม่นยำ และการทำงานที่ต่อเนื่องของระบบกลไกล

พบกับแบรนด์นาฬิกาชั้นนำ และคอลเลคชั่นนาฬิกาพิเศษที่ Cortina Watch Boutiques และผ่านช่องทางออนไลน์

This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.